คนตระหนี่ไม่ใช้ทรัพย์ ตายแล้วไม่มีทรัพย์ใช้

คนตระหนี่ไม่ใช้ทรัพย์ ตายแล้วไม่มีทรัพย์ใช้

     " มยํ โภเค สํหริมฺห       สเมน วิสเมน จ

       เต อญฺเญ ปริภุญฺชนฺติ     มยํ ทุกฺขสฺส ภาคินี."

      ความว่า " พวกเรารวบรวมโภคทรัพย์ไว้โดยชอบธรรมบ้าง ไม่ชอบธรรมบ้าง แต่คนอื่นๆ พากันใช้สอยโภคทรัพย์เหล่านั้น ส่วนพวกเรากลับได้รับทุกข์

(ขุ.เปต. ข้อ 134, มจร. ข้อ 801)

ความเป็นมาแห่งเปรตภาษิต

      แม่ค้า 4 คนชาวกรุงราชคฤห์ ค้าขายเนยใสและข้าวเปลือก เป็นต้น ด้วยวิธีโกงตาชั่งเป็นต้น รวบรวมโภคทรัพย์ไว้ และไม่ใช้สอยให้เป็นประโยชน์ พวกนางตายแล้วเกิดเป็นเปรตอยู่หลังคูเมือง ส่งเสียงร้องน่ากลัวในยามราตรีด้วยภาษิตนี้ ผู้ที่ได้ยินเสียงร้องต่างตกใจกลัว รวมกันถวายมหาทานแด่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ แล้วกราบทูลให้ทรงทราบ พระศาสดาจึงตรัสเล่าความเป็นมาของพวกเปรต, เปรตถูกความทุกข์ เช่นความหิวกระหายครอบงำ นึกถึงกรรมชั่ว จึงร้องกล่าวภาษิตนี้, รวบรวมทรัพย์ หมายถึง หาเก็บไว้ไม่ให้อะไรๆแก่ใครๆ เพราะความตระหนี่, พวกเขาเสวยทุกข์ใหญ่ในกำเนิดเปรต เพราะไม่ทำสุจริต ทำแต่ทุจริต(ดู เปต.อ. 453-4)

---------------

ปุณณมันตานีปุตตเถราปทาน ประวัติพระปุณณมันตานีบุตรเถระ

      พระปุณณมันตานีบุตรเถระกล่าวประวัติตนไว้ว่า เมื่อ.3 แสนกัปที่พ่านมา เราเกิดเป็นพราหมณ์คงแก่เรียน ฟังธรรมโดยย่อจากพระปทุมุตตรพระพุทธเจ้าแล้วไปแสดงให้ศิษย์ฟังโดยพิสดาร ศิษย์ทุกคนบรรลุพระอรหัต ส่วนเราเวี่ยนว่ายตายเกิดในเทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก เพราะผลบุญนั้น ได้เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 4 ชาติ ในชาติสุดท้ายนี้ ได้บรรลุพระอรหัตพร้อมคุณวิเศษมีปฏิสัมภิทา 4 เป็นต้น เป็นมหาสาวกของพระโคดมพุทธเจ้า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุผู้เป็นธรรมกถึกแล

(ขุททกนิกาย อปาทาน)

**************

อุปาลิเถราปทาน ประวัติพระอุบาลีเถระ

      พระอุบาลีเถระกล่าวประวัติตนไว้ว่า เมื่อ 1 แสนกัปที่พ่านมา เราเป็นพราหมณ์ชื่อสุชาติ ผู้คงแก่เรียน มีชื่อเสียง มีทั้งปริพาชกและดาบสจำนวนมากพยายามเข้ามาเป็นพวก แต่เราไม่นับถือใคร เมื่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลกทรงแต่งตั้งภิกษุรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งผู้ทรงพระวินัย เราสร้างอารามถวายพระพุทธเจ้าและปรารถนาตำแหน่งนั้น เพราะผลบุญนั้น เราเกิดในเทวโลก 3 หมื่นกัป เป็นท้าวสักกะ 1,000 ชาติ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 1,000 ชาติ ในชาติสุดท้ายนี้ ได้บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยคุณวิเศษมีปฏิสัมภิทา 4 เป็นต้น เป็นมหาสาวกของพระโคดมพุทธเจ้า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุผู้ทรงพระวินัยแล

(ขุททกนิกาย อปทาน)

-----------------

มหากัสสปเถราปทาน ประวัติพระมหากัสสปะ

พระมหากัสสปเถระกล่าวประวัติตนไว้ว่า เมื่อ 6 หมื่นกัปที่ผ่านมา หลังจากพระปทุมุตตรพุทธเจ้าปรินิพพาน เราชักชวนญาติๆ บูชาและสร้างอัคฆิยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บูชาด้วยจิตเลื่อมใสทุกวัน เพราะผลบุญนั้น เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 30 ชาติ ในชาติสุดท้ายนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์มีทรัพย์มากสละทรัพย์ออกบวชแล้วได้บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยคุณวิเศษมีปฏิสัมภิทา 4 เป็นต้น เป็นมหาสาวกของพระโคดมพุทธเจ้า ผู้เลิศกว่าภิกษุในการถือธุดงค์แล.

(ขุททกนิกาย อปทาน)

***************

อนุรุทธเถราปทาน ประวัติพระอนุรุทธเถระ

      พระอนุรุทธเถระกล่าวประวัติตนไว้ว่า เมื่อ 3 หมื่นกัปที่พ่านมา เราถวายประทีปแด่พระสุเมธพุทธเจ้า เพราะผลบุญนั้น เราเกิดเป็นท้าวสักกะ 30 กัป เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 28 ชาติ ในชาติสุดท้ายนี้ เราเกิดในตระกูลกษัตริย์แห่งศากยะ ได้บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยคุณวิเศษมีปฏิสัมภิทา 4 เป็นต้น เป็นมหาสาวกของพระโคดมพุทธเจ้า ผู้เลิศกว่าภิกษุผู้มีทิพยจักขุแล.

(ขุททกนิกาย อปาทาน)

-------------------

สารีปุตตเถราปทาน ประวัติพระสารีบุตรเถระ

      พระสารีบุตรเถระกล่าวประวัติตนไว้ว่า เมื่อ 1 อสงไขยแสนกัปที่พ่านมา เราเป็นดาบสชื่อสุรุจิ มีศิษย์ 1,024 คน สร้างอาศรมอยู่ใกล้ภูเขาลัมพกะ ป่าหิมพานต์ เราและศิษย์ชอบเข้าฌานอยู่ด้วยเมตตา เรานำดอกไม้ไปบูชาพระอโนมทัสสีพุทธเจ้า กล่าวชมพระญาณของพระองค์มากมาย เพราะผลบุญนั้น เราจึงรุ่งเรืองไม่มีที่สิ้นสุด รื่นรมย์ในเทวโลก 1 แสนกัป เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 1,000 ชาติ เป็นพระราชาประเทศราชนับไม่ถ้วน ในชาติสุดท้ายนี้ได้บรรลุพระอรหัตพร้อมคุณวิเศษมีปฏิสัมภิทา 4 เป็นต้น เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวาของพระโคดมพุทธเจ้า ผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีปัญญามากแล

(ขุททกนิกาย อปาทาน)

-------------------

มหาโมคคัลลานเถราปทาน ประวัติพระมหาโมคคัลลานเถระ

      พระมหาโมคคัลลานเถระกล่าวประวัติตนไว้ว่า เมื่อ 1 อสงไขยแสนกัปที่พ่านมา เราเป็นพญานาคชื่อวรุณ มีจิตเสื่อมใสบำรุงพระอโนมทัสสีพุทธเจ้า เพราะผลบุญนั้น เราจึงรุ่งเรืองไม่มีที่สิ้นสุด ครองเทวสมบัติ 77 ชาติ เป็นพระเจ้าแผ่นดิน 108 ชาติ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 55 ชาติ มีโภคสมบัตินับไม่ถ้วน ในชาติสุดท้ายนี้ ได้บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยคุณวิเศษ มีปฏิสัมภิทา 4 เป็นต้น และเป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระโคดมพุทธเจ้า ผู้เลิศกว่าภิกษุผู้มีฤทธิ์มากแล

(ขุททกนิกาย เถราปทาน)

-------------------- 

[full-post]