ศึกษาเรื่องเดิม : เริ่มที่งานศพ (๖)
---------------------------------
ใช้คำว่า “พิจารณาผ้า” อ้างเหตุผลอย่างไร?
คงมีคนรู้ตัวเหมือนกันว่าเป็นการพิจารณาศพ แต่เมื่อใช้คำว่า “พิจารณาผ้า” จนเพลินไป ถอยกลับไม่ได้ - ความจริงถอยได้ แต่คิดไปเองว่าเป็นการเสียหน้า ก็จึงมีท่านผู้ทำหน้าที่ “อธิบายผิดให้เป็นถูก” ออกมาอธิบายว่า - เป็นการที่พระสงฆ์ท่านพิจารณาปัจจัยสี่ตามหลักอภิณหปัจจเวกขณะ คือพิจารณาขณะรับ พิจารณาขณะบริโภคใช้สอย และพิจารณาหลังจากบริโภคใช้สอยแล้ว
“พิจารณาผ้า” ขณะทำพิธีทอดผ้าเป็นการพิจารณาในขณะรับปัจจัย ถูกต้องตามหลัก จึงใช้ได้ ไม่ผิด
ก่อนจะตอบว่า คำแก้ต่างหรือแก้ตัวนี้แก้ไม่หลุดอย่างไร ขอถือโอกาสชวนกันศึกษาเรื่องอภิณหปัจจเวกขณะ ที่ยกขึ้นมาอ้างนั้น
ไหนๆ อ้างคำนี้แล้ว ก็หาความรู้กันเสียเลย
ผมไม่แน่ใจว่า พระสงฆ์ทุกวันนี้ท่านยังสวดบทอภิณหปัจจเวกขณะกันอยู่หรือเปล่า
พูดให้กระทบใจหนักกว่านี้ก็อยากจะพูดว่า-ผมไม่แน่ใจว่าพระสงฆ์ทุกวันนี้ท่านรู้จักบทอภิณหปัจจเวกขณะหรือเปล่า
พระสงฆ์เมื่อ ๗๐ ปีที่แล้วท่านรู้จักแน่ๆ ยืนยันได้ ผมเป็นเด็กวัดได้ยินพระสวดทุกวันเวลาทำวัตรเช้าและทำวัตรเย็น
..................
หลักในเรื่องนี้ก็คือ ปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิตในพระพุทธศาสนา คือ จีวรเครื่องนุ่งห่ม อาหารบิณฑบาต เสนาสนะที่อยู่อาศัย และเภสัชรักษาโรค ทั้ง ๔ อย่างนี้ พระจะต้องพิจารณา ๓ ระยะ คือ (๑) พิจารณาขณะรับ (๒) พิจารณาขณะบริโภคใช้สอย และ (๓) พิจารณาหลังจากบริโภคใช้สอยแล้ว
นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คนรุ่นใหม่ไม่รู้-เพราะไม่เรียน
แม้แต่พระรุ่นใหม่เองก็เถอะ อาจจะไม่รู้ด้วย-ถ้าไม่เรียน
เพราะฉะนั้น ผมขอเชิญชวนให้ช่วยกันเรียน ณ บัดนี้
..................
(๑) พิจารณาขณะรับ มีบทพิจารณาเรียกว่า “ธา-ตุปะฏิกูละปัจจะเวกขะณะปาฐะ” ข้อความว่าดังนี้ -
.........................................................
(พิจารณาจีวร)
ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธา-ตุมัตตะเมเวตัง
ยะทิทัง จีวะรัง ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล
ธา-ตุมัตตะโก นิสสัตโต นิชชีโว สุญโญ
สัพพานิ ปะนะ อิมานิ จีวะรานิ อะชิคุจฉะนียานิ
อิมัง ปูติกายัง ปัต๎วา
อะติวิยะ ชิคุจฉะนียานิ ชายันติ ฯ
(พิจารณาบิณฑบาต)
ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธา-ตุมัตตะเมเวตัง
ยะทิทัง ปิณฑะปาโต ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล
ธา-ตุมัตตะโก นิสสัตโต นิชชีโว สุญโญ
สัพโพ ปะนายัง ปิณฑะปาโต อะชิคุจฉะนีโย
อิมัง ปูติกายัง ปัต๎วา
อะติวิยะ ชิคุจฉะนีโย ชายะติ ฯ
(พิจารณาเสนาสนะ)
ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธา-ตุมัตตะเมเวตัง
ยะทิทัง เสนาสะนัง ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล
ธา-ตุมัตตะโก นิสสัตโต นิชชีโว สุญโญ
สัพพานิ ปะนะ อิมานิ เสนาสะนานิ อะชิคุจฉะนียานิ
อิมัง ปูติกายัง ปัต๎วา
อะติวิยะ ชิคุจฉะนียานิ ชายันติ ฯ
(พิจารณาคิลานเภสัช)
ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธา-ตุมัตตะเมเวตัง
ยะทิทัง คิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขาโร ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล
ธา-ตุมัตตะโก นิสสัตโต นิชชีโว สุญโญ
สัพโพ ปะนายัง คิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขาโร อะชิคุจฉะนีโย
อิมัง ปูติกายัง ปัต๎วา
อะติวิยะ ชิคุจฉะนีโย ชายะติ ฯ
.........................................................
คำแปล
จากหนังสือปัจเวกขณปาฐะ (แปล)
ของ สำนักโมกขพลาราม
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๗ พ.ศ.๒๕๑๑
.........................................................
(พิจารณาจีวร)
ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธา-ตุมัตตะเมเวตัง
สิ่งเหล่านี้นี่ เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น กำลังเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่เนืองนิจ
ยะทิทัง จีวะรัง ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล
สิ่งเหล่านี้ คือจีวร และคนผู้ใช้สอยจีวรนั้น
ธา-ตุมัตตะโก
เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติ
นิสสัตโต
มิได้เบ็นสัตวะอันยั่งยืน
นิชชีโว
มิได้เป็นชีวะอันเป็นบุรุษบุคคล
สุญโญ
ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน
สัพพานิ ปะนะ อิมานิ จีวะรานิ อะชิคุจฉะนียานิ
ก็จีวรทั้งหมดนี้ ไม่เป็นของน่าเกลียดมาแต่เดิม
อิมัง ปูติกายัง ปัต๎วา
ครั้นมาถูกเข้ากับกายอันเน่าอยู่เป็นนิจนี้แล้ว
อะติวิยะ ชิคุจฉะนียานิ ชายันติ ฯ
ย่อมกลายเป็นของน่าเกลียดอย่างยิ่งไปด้วยกัน.
(พิจารณาบิณฑบาต)
ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธา-ตุมัตตะเมเวตัง
สิ่งเหล่านี้นี่ เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น กำลังเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่เนืองนิจ
ยะทิทัง ปิณฑะปาโต ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล
สิ่งเหล่านี้ คือบิณฑบาต และคนผู้บริโภคบิณฑบาตนั้น
ธา-ตุมัตตะโก
เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติ
นิสสัตโต
มิได้เบ็นสัตวะอันยั่งยืน
นิชชีโว
มิได้เป็นชีวะอันเป็นบุรุษบุคคล
สุญโญ
ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน
สัพโพ ปะนายัง ปิณฑะปาโต อะชิคุจฉะนีโย
ก็บิณฑบาตทั้งหมดนี้ ไม่เป็นของน่าเกลียดมาแต่เดิม
อิมัง ปูติกายัง ปัต๎วา
ครั้นมาถูกเข้ากับกายอันเน่าอยู่เป็นนิจนี้แล้ว
อะติวิยะ ชิคุจฉะนีโย ชายะติ ฯ
ย่อมกลายเป็นของน่าเกลียดอย่างยิ่งไปด้วยกัน.
(พิจารณาเสนาสนะ)
ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธา-ตุมัตตะเมเวตัง
สิ่งเหล่านี้นี่ เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น กำลังเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่เนืองนิจ
ยะทิทัง เสนาสะนัง ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล
สิ่งเหล่านี้ คือเสนาสนะ และคนผู้ใช้สอยเสนาสนะนั้น
ธา-ตุมัตตะโก
เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติ
นิสสัตโต
มิได้เบ็นสัตวะอันยั่งยืน
นิชชีโว
มิได้เป็นชีวะอันเป็นบุรุษบุคคล
สุญโญ
ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน
สัพพานิ ปะนะ อิมานิ เสนาสะนานิ อะชิคุจฉะนียานิ
ก็เสนาสนะทั้งหมดนี้ ไม่เป็นของน่าเกลียดมาแต่เดิม
อิมัง ปูติกายัง ปัต๎วา
ครั้นมาถูกเข้ากับกายอันเน่าอยู่เป็นนิจนี้แล้ว
อะติวิยะ ชิคุจฉะนียานิ ชายันติ ฯ
ย่อมกลายเป็นของน่าเกลียดอย่างยิ่งไปด้วยกัน.
(พิจารณาคิลานเภสัช)
ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธา-ตุมัตตะเมเวตัง
สิ่งเหล่านี้นี่ เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น กำลังเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่เนืองนิจ
ยะทิทัง คิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขาโร ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล
สิ่งเหล่านี้ คือเภสัชบริขารอันเกื้อกูลแก่คนไข้ และคนผู้บริโภคเภสัชบริขารนั้น
ธา-ตุมัตตะโก
เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติ
นิสสัตโต
มิได้เบ็นสัตวะอันยั่งยืน
นิชชีโว
มิได้เป็นชีวะอันเป็นบุรุษบุคคล
สุญโญ
ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน
สัพโพ ปะนายัง คิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขาโร อะชิคุจฉะนีโย
ก็คิลานเภสัชบริขารทั้งหมดนี้ ไม่เป็นของน่าเกลียดมาแต่เดิม
อิมัง ปูติกายัง ปัต๎วา
ครั้นมาถูกเข้ากับกายอันเน่าอยู่เป็นนิจนี้แล้ว
อะติวิยะ ชิคุจฉะนีโย ชายะติ ฯ
ย่อมกลายเป็นของน่าเกลียดอย่างยิ่งไปด้วยกัน.
.........................................................
ตอนต่อไป-ศึกษาบทตังขณิกปัจเวกขณปาฐะ-พิจารณาขณะบริโภคใช้สอย
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๖
๑๖:๑๓
[full-post]
แสดงความคิดเห็น
ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ