ความไม่รู้เรื่องนิพพาน
---------------------
ผมเห็นข่าวที่มีผู้จัดหลักสูตรอบรมที่มีผลให้ผู้เข้ารับการอบรมบรรลุนิพพานได้ และมีผู้วิจารณ์กันมาก ก็เกิดความคิดเห็นบางประการ
ผมยังไม่เห็นรายละเอียดว่า ใครเป็นผู้จัดหลักสูตรนี้ จัดไปแล้วหรือเป็นเพียงคิดโครงการขึ้น ถ้าจัดไปแล้วมีผู้เข้ารับการอบรมมากน้อยแค่ไหน และได้บรรลุนิพพานกันบ้างแล้วหรือยัง เห็นแต่บอกว่าค่าสมัครเข้ารับการอบรมคนละ ๒๕,๐๐๐.-บาท และหยิบยกขึ้นมาวิจารณ์ว่า จ่ายสองหมื่นก็ไปนิพพานได้
การเอาข่าวมาบอกเล่าสมัยนี้ ผมนึกแวบไปถึงเรื่องเมืองศรีเทพที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีคำบรรยายมากมาย แต่เชื่อหรือไม่ว่า เมืองศรีเทพตั้งอยู่ที่ตำบลอำเภอจังหวัดอะไรแทบจะไม่ได้เอ่ยถึง
ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร-เป็นสูตรของการบอกเล่าข่าวสมัยก่อน แต่สื่อสมัยนี้คงจะไม่ได้ยึดถือสูตรนี้กันอีกแล้ว
ปกติผมไม่ติดตามเสพข่าวจากทุกสื่อ เพราะฉะนั้น เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ได้ติดตามรายละเอียด ไม่ใช่ความผิดของคนเอาข่าวมาบอกเล่า
ผ่านประเด็นนี้ไป
ผมสนใจประเด็นที่มีผู้วิจารณ์ เท่าที่อ่านผ่าน ๆ ก็พบแต่ที่เป็นความคิดเห็น แสดงความคิดเห็นยาวเหยียดและอึกทึกครึกโครม
แต่การบรรลุนิพพานมีหลักฐานที่ท่านแสดงไว้ในคัมภีร์อะไรบ้างและแสดงไว้อย่างไรบ้าง ยังไม่เห็นว่ามีนักวิจารณ์ท่านไหนหยิบยกออกมาบอกล่าวให้ดูกัน
นิพพานที่กำลังพูดถึงนี้เป็นคำสอนในพระพุทธศาสนา
หลักคำสอนในพระพุทธศาสนามีบันทึกไว้ในคัมภีร์ที่เรียกว่าพระไตรปิฎก ซึ่งหมายรวมทั้งคัมภีร์อรรถกถาฎีกาลดหลั่นกันไป
ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะคิดเอาเองหรือคิดขึ้นเอง
ยกหลักฐานจากคัมภีร์มาแสดงก่อน จบแล้ว หมดแล้ว จึงค่อยแสดงความเห็นของเรา-บนพื้นฐานแห่งหลักฐานนั้น
ทำอย่างนี้ก็จะเข้าใจได้ง่าย และเรื่องก็จบได้ง่าย
.....................
เรื่องนี้เป็นข้อยืนยันว่า คณะสงฆ์ไทยควรมีกองวิชาการพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง
ถ้าคณะสงฆ์ไทยมีกองวิชาการพระพุทธศาสนา ก็นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาได้เลย
ถึงจะไม่ใครนำเข้าไปเสนอ ก็เป็นหน้าที่ของกองวิชาการพระพุทธศาสนานั่นเองที่จะต้องออกมาจับเอาเรื่องนี้เข้าไปพิจารณาตามหน้าที่ ไม่ต้องรอให้มีใครบอก
วิธีพิจารณาก็คือ คณะกรรมการกองวิชาการพระพุทธศาสนาประชุมกัน อัญเชิญพระไตรปิฎกอรรถกถาฎีกาออกมาศึกษาตรวจสอบ ประมวลเข้าเป็นหลักการว่า การบรรลุนิพพานในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างนี้ ๆ แล้วนำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาประกาศออกมาเป็นมติคณะสงฆ์ไทย
เรื่องก็จบ
แต่เพราะคณะสงฆ์ไทยไม่มีกองวิชาการพระพุทธศาสนา ประการหนึ่ง
และอีกประการหนึ่ง คณะสงฆ์ไทย-โดยมหาเถรสมาคม จะพิจารณาเรื่องอะไร จะต้องมีผู้เอาเรื่องนั้นใส่แฟ้มนำไปวางข้างหน้า ท่านจึงจะพิจารณา และ ณ เวลานี้เรายังไม่มีบุคคลที่คิดว่าเป็นหน้าที่ของข้าพเจ้าที่จะเอาเรื่องนี้ไปใส่แฟ้มเสนอ เพราะฉะนั้น โอกาสที่คณะสงฆ์ไทย-โดยมหาเถรสมาคม จะพิจารณาปัญหานี้ก็มีค่าเป็นศูนย์ คือไม่มีการพิจารณา
นั่นก็คือ-ก็จะมีแต่คามคิดเห็นที่แสดงกันอึงคะนึงไป และไม่มีใครฟังใคร จนกว่าจะเหนื่อยกันไปเอง
เรื่องก็จะไม่มีวันจบ
จากเรื่องจ่ายสองหมื่นก็บรรลุนิพพานได้ ต่อไปก็จะมีเรื่องนั้นอีก เรื่องโน้นอีก และเรื่องโน้น ๆๆๆ ต่อไปอีก
และทุกเรื่องก็จะมีอนาคตเหมือนกัน คือมีแต่พูดกัน แต่ไม่มีวันจบ
และจะเป็นอย่างนี้ไปตลอดกาลนานเทอญ
.....................
ใครรักพระศาสนา ห่วงพระศาสนา ช่วยกันหาความรู้นะครับ
พระไตรปิฎกอรรถกถาฎีกาไม่ใช่คัมภีร์ลึกลับ ไม่ใช่เอกสารลับ
ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเสรี
ขออนุญาตสร้างบรรยากาศนิดนะครับ
.....................
เมื่อกว่าครึ่งศตวรรษที่แล้ว
ผมจะอ่านพระไตรปิฎก
ต้อง “ถ่อ” ไปที่วัด
ไปถึงวัดแล้ว
ท่านมหาจ่อยผู้ถือกุญแจตู้พระไตรปิฎก
เผอิญไปกิจนิมนต์
ต้องรออยู่ครึ่งวัน
ท่านมหาจ่อยกลับมาแล้ว
ดันลืมไปว่าเอากุญแจตู้พระไตรปิฎกไปลืมทิ้งไว้ที่ไหน
ตามหากันอีกพักใหญ่
กว่าจะได้อ่านพระไตรปิฎก
เหงื่อตก
หมดไปวันหนึ่ง
แต่ ณ วันนี้
ผมนั่งกระดิกขา
นุ่งผ้าขะม้าผืนเดียว
เอกเขนกอยู่กับบ้าน
ก็อ่านพระไตรปิฎกได้
สบายแสนสบาย
.....................
นักเรียนบาลีจะได้เปรียบหน่อย เพราะเข้าถึงต้นฉบับที่เป็นปฐมภูมิ-คือต้นฉบับภาษาบาลี-ได้ด้วยตัวเอง ทำให้สามารถวินิจฉัยปัญหาได้ชัดเจนขึ้น
พอจะเห็นเป้าหมายปลายทางที่ถูกต้องแท้จริงของการเรียนบาลีกันมั่งหรือยังครับว่า-ไม่ใช่เรียนแค่สอบประโยค ๙ ได้แล้วจบตามค่านิยมเบี่ยงเบนในปัจจุบัน
หรือจะต้องรอให้เกิดเรื่องนั้น เรื่องโน้น และเรื่องโน้น ๆๆๆ อีกสักกี่ร้อยกี่พันเรื่องจึงจะรู้สึกตัวกันได้
.....................
หาความรู้ ได้ความรู้ที่ถูกต้องแล้ว ก็นำมาบอกกล่าวแก่เพื่อนร่วมสังคมว่า -
เรื่องนิพพานหลักมีอยู่ว่าอย่างนี้
จริงเป็นอย่างนี้
เท็จเป็นอย่างนี้
เรื่องอื่น ๆ ก็ศึกษาหาความรู้และให้ความรู้ทำนองเดียวกันนี้
เพื่อนร่วมสังคมจะได้พลอยมีความรู้ไปด้วย
จะได้เข้าใจพระพุทธศาสนาถูกต้องด้วย
และจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของใครอีกด้วย
---------------
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
ภาคีสมาชิก ราชบัณฑิตยสภา
๑๖ มีนาคม ๒๕๖๗
๑๕:๓๓
แสดงความคิดเห็น
ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ