คนรุ่นเก่ากับกลไกไฮเทค

-------------------

ผมเป็นคนรุ่นเก่า เป็นคนโบราณ ไม่ถนัดกลไกไฮเทคใดๆ ทั้งสิ้น 

เครื่องมือสื่อสารค้นคว้าที่ใช้ได้อยู่ทุกวันนี้เป็นอุปกรณ์ที่ลูกๆ มาช่วยกันติดตั้งให้ แม้แต่เฟซบุ๊กที่เขียนบาลีวันละคำและเขียนบทความตามโอกาสอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นสิ่งที่ลูกจัดการไว้ให้ ผมมีหน้าที่ใช้เท่านั้น และใช้ได้ในขอบเขตที่จำกัดอย่างยิ่ง 

คอมพิวเตอร์เครื่องที่ใช้ทุกวันนี้ก็เป็นเครื่องที่พระคุณท่านรูปหนึ่งยกเครื่องแกะกล่องมาให้ใช้ - กราบขอบพระคุณเป็นที่สุด

แต่ก่อนหน้านั้น ผมใช้เครื่องเก่าที่ลูกเลิกใช้แล้ว (เพราะมีรุ่นใหม่ไฮเทคกว่า) แต่ขนาดเครื่องเก่าก็เป็นเครื่องที่เหลือเฟือแล้วสำหรับผม 

อุปมาเหมือนให้เงินมา ๑๐๐ บาท ผมใช้ ๒๐ บาทก็ได้อะไรๆ พร้อมบริบูรณ์ตามความต้องการของผมแล้วด้วยประการทั้งปวง 

เครื่องคอมพิวเตอร์ของผมทำหน้าที่เป็น -

(๑) ปากกาดินสอกระดาษเอาไว้เขียนหนังสือ 

(๒) ตู้เก็บหนังสือเท่าที่จำเป็นต้องอ่านตามสายวิทยาการของผม เช่น พระไตรปิฎก และพจนานุกรมต่างๆ

(๓) ห้องสมุดที่ผมสามารถไปยืมหนังสือได้ แต่ยืมได้เป็นส่วนน้อย เพราะผมสืบค้นไม่ค่อยเป็น

แทนที่ผมจะต้องนั่งอยู่ท่ามกลางหนังสือกองท่วมหัว ผมก็อยู่กับคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวโล่งๆ สบายๆ

แต่จะให้ผมใช้มันให้เป็นอย่างอื่นอีกตั้งร้อยอย่างพันอย่าง ผมทำไม่เป็นครับ

ตัวอย่างง่ายๆ ผมมีไฟล์เพลงที่ผมเป็นผู้แต่งอยู่จำนวนหนึ่ง วันหนึ่งลูกเขาเอาไปลงยูทูบให้ดู 

คลิกตรงนี้นะพ่อ 

แล้วพอมันขึ้นอย่างนี้ก็คลิกตรงนี้นะพ่อ 

แล้วพอมันถามอย่างนี้ก็ตอบมันไปอย่างนี้นะพ่อ 

ถ้าจะเอาภาพใส่ ก็ทำอย่างนี้นะพ่อ 

ฯลฯ 

เสร็จเรียบร้อย

พอเปิดดู ก็มีเพลงที่ผมแต่งอยู่ในยูทูบจริงๆ

แต่พอลูกทำเสร็จ ผมก็จำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ขั้นตอนเดียว ฮ่า ฮ่า ฮ่า

แม้แต่จะดาวน์โหลดอะไรที่ต้องการจากอินเทอร์เน็ต ผมก็ทำได้แค่บางระดับเท่านั้น ถ้าเครื่องมันให้ป้อนข้อมูลอะไรเสียก่อน ผมก็ติดแหง็ก ไปไม่เป็น

สรุปว่า คนรุ่นผมอ่านหนังสือจากเล่มกระดาษสะดวกกว่าอ่านจากหน้าจอ ฟังเพลงจากวิทยุสบายกว่าฟังจากเครื่องไฮเทคอื่นใด

แต่อย่างไรก็ตาม ผมกำลังพัฒนาตัวเองเพื่อให้อยู่กับกลไกไฮเทคได้สะดวกขึ้น จนถึงวันนี้เริ่มรู้สึกว่า อ่านหนังสือจากไฟล์ PDF สะดวกกว่าลุกขึ้นไปค้นหนังสือที่เป็นเล่มกระดาษในตู้หนังสือ-ซึ่งมักหาไม่เจอว่าหนังสือเล่มนั้นอยู่ตรงไหน

------------

เดี๋ยวนี้ตามสถานีบริการน้ำมัน (ที่เรียกตามภาษาปากว่า ปั๊ม) มักมีห้องสุขาสำหรับคนพิการด้วย

คนส่วนใหญ่ในโลกไม่ใช่คนพิการทางร่างกาย

ใครก็ตามที่กำหนดให้คนสร้างปั๊มต้องสร้างห้องน้ำห้องสุขาสำหรับคนพิการด้วย ก็คงไม่ใช่คนพิการ

แต่เขาอุตส่าห์คิดถึงคนพิการ

บริการสาธารณะอื่นๆ ก็มีส่วนที่ทำไว้สำหรับคนพิการมากขึ้น

ถ้าคนที่คิดพัฒนาระบบไฮเทคต่างๆ บนโลกโซเชียลมีเดียจะมีแนวคิดทำนองเดียวกับคนที่สร้างห้องสุขาและบริการสาธารณะสำหรับคนพิการไว้บ้าง ก็น่าจะดีนะครับ

คิดระบบไฮเทคอะไรขึ้นมา คิดถึงคนที่ไม่ถนัดกับระบบไว้ด้วยเสมอ

......................

บน Facebook ผมมีหน้า Fanpage อยู่หน้าหนึ่ง ลูกมาเปิดไว้ให้ ตอนแรกก็ใช้งานได้ดี เปิดเข้าไปแล้ว ญาติมิตรที่ติดต่อไปทางหน้า Fanpage ส่งข่าวหรือถามไถ่อะไรมา สามารถอ่านได้และตอบกลับได้เป็นอันดี ไม่มีตกหล่น

แต่ตอนนี้ Facebook เขาปรับปรุงอะไรก็ไม่ทราบ หน้า Fanpage ของผมยังมีอยู่เหมือนเดิม มีญาติมิตรติดต่อไปเหมือนเดิม แต่ผมเปิดอ่านไม่ได้ มีปุ่มให้คลิกตรงนั้นตรงนี้เหมือนปกติ แต่คลิกแล้วก็ไม่มีข้อความขึ้นมาให้อ่าน ส่งรูปอะไรมาเปิดดูไม่ได้ เขียนข้อความอะไรมาเปิดอ่านไม่ได้ ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่าคนนี้ติดต่อมา 

เพราะฉะนั้น ญาติมิตรที่ติดต่อผมไปทางหน้า Fanpage ถ้าไม่เห็นผมตอบอะไรไป ก็โปรดทราบว่า-เรื่องมันเป็นอย่างนี้แหละ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วย

นี่เป็นตัวอย่างปัญหาเล็กๆ ที่คนรุ่นใหม่อ่านแล้วขำกลิ้ง ... คุณลุ้ง คุณลุง เปิดตรงนี้ คลิกตรงนี้ แล้วไปตรงนี้ แล้วไปตรงนี้ เท่านี้ก็เรียบร้อย ไม่เห็นจะยากอะไรเล้ย ...

......................

ผมถึงว่า-คิดระบบไฮเทคอะไรขึ้นมา คิดถึงคนที่ไม่ถนัดกับระบบไว้บ้างก็ดีนะครับ

เว้นไว้แต่จะตัดหางปล่อยวัดกันเด็ดขาด

ปล่อยให้ตกโลกไป

อยากโง่เอง

ช่วยไม่ได้

......................

เวลามีคนที่ไม่รู้บาลีเอาคำบาลีมาถาม ให้อธิบายความหมายและที่ไปที่มา ผมรู้สึกว่าได้รับเกียรติอย่างยิ่ง 

ไม่เคยรำคาญ 

ไม่เคยเบื่อที่จะอธิบาย

ผมอธิบายด้วยความเต็มใจ เต็มที่ และมีความสุขเสมอ

ไม่เคยคิดว่า - ปล่อยให้คนไม่รู้บาลีตกโลกไปเถอะ

อยากโง่เอง

ช่วยไม่ได้

------------------------------

พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย

๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๕

๑๘:๐๖ 

[right-side]

แสดงความคิดเห็น

ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.