สมเกียรติ พลเดชอุดมคุณ


ควรถวายสิ่งใดเพื่ออุทิศให้เปรต

   ถาม ในการถวายสังฆทาน เพื่ออุทิศบุญให้เปรตนั้น เราควรจะมีสิ่งใดบ้าง 

   ตอบ ในกรณีนั้นต้องถามตัวคุณเองก่อนว่า คุณต้องการให้เปรตได้รับอะไร ได้รับอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยานพาหนะ หรือสิ่งอื่นใด ก็จงถวายสิ่งนั้นแล้วอุทิศให้ เช่น คุณอยากให้เปรตได้อาหาร คุณต้องถวายอาหาร คุณอยากให้เปรตได้เครื่องนุ่งห่ม คุณถวายผ้าไตรจีวร คุณต้องการให้เปรตมียานพาหนะ ก็ต้องถวายรองเท้า เป็นต้น ซึ่งเมื่อ คุณถวายของเหล่านี้แล้ว อุทิศส่วนบุญไปให้ เปรตรับทราบและอนุโมทนาแล้ว เปรต ก็จะได้รับของตรงกับที่คุณอุทิศไปให้ แต่เป็นของทิพย์ มิใช่ของอย่างในเมืองมนุษย์

   โดยปกติแล้ว เราไม่อาจทราบว่า ผู้ที่ตายแล้วไปเกิดที่ไหน และถ้าเกิดเป็นเปรต เขาต้องการสิ่งใด ดังนั้นเพื่อจะให้เปรตได้รับความสุขทุกอย่าง จึงนิยมถวายทั้งอาหาร น้ำดื่ม ผ้าไตรจีวร ตลอดจนรองเท้าและสิ่งของอื่นๆ ตามแต่จะเห็นสมควร แล้วอุทิศบุญ ให้เปรต ญาติพี่น้องผู้ล่วงลับไปแล้ว เปรตนั้นอนุโมทนาแล้วก็ได้รับของทุกอย่างตาม ที่มีผู้อุทิศไปให้แต่เป็นของทิพย์ เพื่อให้เรื่องนี้แจ่มแจ้ง ก็จะขอเล่าเรื่องสานุวาสีเปรต ตามที่มีมาในเปตวัตถุ ข้อ ๑๑๒ ให้ทราบดังนี้

   พระเถระชาวกุณฑนครรูปหนึ่ง อยู่ที่ภูเขาสานุวาสี มีนามว่า โปฏฐปาทะ เป็น สมณะผู้มีอินทรีย์อันสงบแล้ว แต่มารดาบิดาและพี่ชายของท่านเกิดในยมโลก เสวยทุกข เวทนา เพราะทำกรรมอันลามกไว้ จึงจากโลกนี้ไปสู่เปตโลก เปรตเหล่านั้นมีช่องปาก เท่ารูเข็ม ลำบากยิ่งนัก เปลือยกาย ซูบผอม มีความหวาดกลัวสะดุ้งมาก มีการงานทารุณ ไม่อาจแสดงตนแก่พระเถระได้ เปรตผู้เป็นพี่ชายได้เปลือยกายเข้าไปหาพระเถระ แต่ลำพัง นั่งคุกเข่าประนมมือแสดงตนแก่พระเถระ พระเถระไม่ใส่ใจเดินเลยไป เปรตนั้น จึงบอกให้พระเถระทราบว่า ข้าพเจ้าเป็นพี่ชายของท่าน เกิดในเปตโลก แม้มารดาบิดา ของท่านที่เกิดในยมโลก เสวยทุกข์เพราะทำบาปกรรมไว้มาก จึงจากโลกนี้ไปสู่เปตโลก มีช่องปากเท่ารูเข็ม ลำบากมาก เปลือยกาย ซูบผอม มีการงานทารุณ ไม่อาจแสดงตน แก่ท่าน ขอท่านจงอนุเคราะห์แก่มารดาบิดา จงให้ทานแล้วอุทิศส่วนกุศลให้พวกเรา พวก เราจักยังอัตภาพให้เป็นไปได้ ด้วยทานที่ท่านให้แล้ว

      พระเถระฟังเปรตพี่ชายแล้ว เกิดกรุณา จึงพร้อมด้วยพระภิกษุอีก ๑๒ รูป เที่ยวไปบิณฑบาต กลับมาประชุมทำภัตกิจ พระเถระกล่าวกับภิกษุทั้งหมดนั้นว่า ขอท่านทั้งหลายจงให้ภัตตาหารที่ท่านได้แล้วแก่ผมเถิด ผมจักทำสังฆทานอนุเคราะห์ญาติทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นมอบให้พระเถระ พระเถระนิมนต์สงฆ์ถวายสังฆทานแล้ว อุทิศ ส่วนบุญไปให้มารดาบิดาและพี่ชายด้วยเจตนาอุทิศว่า ขอทานนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของเรา ในลำดับต่อจากที่อุทิศนั้นเอง โภชนะอันประณีตสมบูรณ์ มีแกงและกับหลายอย่าง เกิดขึ้นแก่เปรตเหล่านั้น

   ภายหลังเปรตผู้พี่ชายมีผิวพรรณดี มีกำลัง มีความสุข ได้ไปแสดงตนแก่พระเถระ แล้วกล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ โภชนะเป็นอันมากพวกข้าพเจ้าได้แล้ว แต่ขอท่านจงดู พวกข้าพเจ้ายังเปลือยกาย ขอท่านจงพยายามให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้ผ้านุ่งห่มด้วยเถิด พระเถระเลือกเก็บผ้าจากกองขยะ เอามาทำจีวร แล้วถวายแก่สงฆ์ที่มาแล้วจากทิศทั้งสี่ แล้วได้อุทิศส่วนกุศลให้มารดาบิดาและพี่ชาย ด้วยเจตนาอุทิศว่า ขอญาติทั้งหลายของเรา จงมีความสุขเถิด ในลำดับแห่งการอุทิศนั่นเอง ผ้าทั้งหลายได้เกิดขึ้นแก่พวกเปรต

   ภายหลังเปรตเหล่านั้นนุ่งห่มผ้าเรียบร้อย แสดงตนแก่พระเถระว่า ข้าแต่ท่าน ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายมีผิวพรรณดี มีกำลัง มีความสุข มีผ้านุ่งห่มมากกว่าผ้าที่มีในแคว้นของพระเจ้านันทราช ผ้านุ่งห่มของพวกเรา ไพบูลย์และมีค่ามาก คือผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าเปลือกไม้ ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าป่าน ผ้าเหล่านั้นแขวนอยู่ในอากาศ ข้าพเจ้า ทั้งหลายเลือกนุ่งห่มแต่ผืนที่พอใจ แต่ว่าพวกข้าพเจ้ายังไม่มีบ้านเรือน ขอท่านจงพยายาม ให้พวกข้าพเจ้าได้บ้านเรือนเถิด พระเถระสร้างกุฏิมุงด้วยใบไม้ แล้วถวายแก่สงฆ์ผู้มาจาก ทิศทั้งสี่ แล้วตั้งเจตนาอุทิศให้มารดาบิดาและพี่ชาย ด้วยเจตนาอุทิศว่า ขอผลแห่งการถวายกุฏินี้ จงสำเร็จแก่พวกญาติของเรา ขอพวกญาติของเราจึงมีความสุขเถิด

   ในลำดับแห่งการอุทิศนั่นเอง เรือนทั้งหลายคือปราสาทและเรือนอย่างอื่น อันบุญกรรมกำหนดไว้เป็นส่วนๆ ได้เกิดขึ้นแก่เปรตเหล่านั้น เรือนของเราในเขตโลกนี้ ไม่เหมือนกับเรือนในมนุษย์โลก เรือนของเราในเปตโลกนี้งามรุ่งเรืองสว่างไสวไปทั่วทั้งแปดทิศ เหมือนเรือนในเทวโลก แต่พวกเรายังไม่มีน้ำดื่ม ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอท่าน จงพยายามให้พวกข้าพเจ้าได้ดื่มน้ำด้วยเถิด พระเถระจึงตักน้ำเต็มธมกรก แล้วถวายสงฆ์ที่มาจากทิศทั้งสี่ ครั้นแล้วได้อุทิศให้มารดาบิดาและพี่ชาย ด้วยเจตนาว่า ขอผลทานนี้จงสำเร็จแก่พวกญาติของเรา ขอพวกญาติของเราจงมีความสุขเถิด

   ในลำดับแห่งการอุทิศนั่นเอง น้ำดื่ม คือสระโบกขรณี กว้างสี่เหลี่ยม ลึก มีน้ำเย็น มีท่าราบเรียบดี มีน้ำเต็ม มีกลิ่นหอมหาที่เปรียบมิได้ ดารดาษด้วยกอปทุมและอุบล เต็มไปด้วยละอองเกสรบัวที่ร่วงลงน้ำ ได้เกิดขึ้นให้พวกเปรตเหล่านั้นอาบและดื่มกิน ครั้นแล้วได้แสดงตนแก่พระเถระกล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ น้ำดื่มของพวก ข้าพเจ้าเพียงพอแล้ว บาปย่อมเผล็ดผลเป็นทุกข์แก่พวกข้าพเจ้าผู้พากันเที่ยวไปในภูมิภาคที่มีแต่ก้อนกรวด และหญ้าคา ขอท่านจงพยายามให้พวกข้าพเจ้าได้ยานพาหนะอย่างใด อย่างหนึ่งเถิด พระเถระได้ถวายรองเท้าแก่สงฆ์ผู้มาจากทิศทั้งสี่ แล้วอุทิศกุศลนั้นให้ มารดาบิดาและพี่ชาย ด้วยตั้งเจตนาอุทิศว่า ขอผลแห่งทานนี้จงสำเร็จแก่พวกญาติของเรา ขอพวกญาติของเราจึงมีความสุขเถิด

   ในลำดับแห่งการอุทิศนั่นเอง เปรตทั้งหลายได้มาแสดงตนให้เห็นพร้อมด้วยรถ แล้วกล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พวกข้าพเจ้าได้รับการอนุเคราะห์จากท่านด้วยการให้ข้าวน้ำ ผ้านุ่งห่ม บ้านเรือน น้ำดื่ม และยานพาหนะ เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าทั้งหลายจึงมาเพื่อ ไหว้ท่าน ผู้เป็นมุนี มีความกรุณาในโลก นี่คือเรื่องราวทั้งหมดในสานุวาสีเปรต 

   จากเรื่องที่ยกมานี้ ท่านผู้ถามก็คงจะเห็นแล้วว่า ถ้าท่านต้องการให้สิ่งใดแก่เปรต ก็จงเอาสิ่งนั้นถวายแก่สงฆ์เป็นสังฆทาน คือไม่เจาะจงว่าจะต้องเป็นพระรูปนั้นรูปนี้ แล้วถวายด้วยตั้งเจตนาอุทิศให้เปรต ครั้นถวายแล้วอุทิศส่วนกุศลนั้นแก่เปรต เปรตทราบแล้วอนุโมทนา เปรตก็จะได้รับของเหล่านั้นตรงตามที่เราอุทิศไปให้ คือถวายข้าวน้ำ แล้ว อุทิศให้ เปรตก็ได้ข้าวน้ำ ดังนี้เป็นต้น ผิดกันแต่ว่าของที่เราถวายแก่สงฆ์นั้นเป็น ของสมควรแก่มนุษย์ แต่เมื่อเกิดขึ้นแก่เปรตก็สมควรแก่เปรต คือเป็นของทิพย์ มิได้เป็น ของหยาบเหมือนของมนุษย์ ด้วยเหตุนี้แหละ ถ้าเราปรารถนาจะให้เปรตได้รับสิ่งใด ก็จง เอาสิ่งนั้นถวายสงฆ์ แล้วอุทิศให้แก่เปรตเถิด เปรตก็จะได้รับความสุขตามสมควรแก่ฐานะ ด้วยของที่เราอุทิศไปให้นั่นเอง


[right-side]

ทักษิณาทาน,อุทิศบุญกุศล

แสดงความคิดเห็น

ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.