ทองย้อย แสงสินชัย

#บาลีวันละคำ (3,990)


สังฆภัต

1 ในบิณฑบาตที่เป็นอดิเรกลาภ

..............

ปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิตในพระพุทธศาสนา เมื่อแรกที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติ มี 4 อย่าง ที่เราเรียกรู้กันว่า “จตุปัจจัย” หรือ “ปัจจัยสี่” คือ:-

(1) อาหาร: ปิณฑิยาโลปโภชนะ = โภชนะที่ได้มาด้วยกำลังปลีแข้ง คือเที่ยวบิณฑบาต

(2) เครื่องนุ่งห่ม: บังสุกุลจีวร = ผ้านุ่งห่มทำจากผ้าที่เขาทิ้งแล้ว 

(3) ที่อยู่อาศัย: รุกขมูลเสนาสนะ = ที่อยู่อาศัยคือโคนไม้ 

(4) ยารักษาโรค: ปูติมุตตเภสัช = ยารักษาโรคคือน้ำมูตรดอง 

ต่อมา ทรงอนุญาตปัจจัยพิเศษในแต่ละอย่างเพิ่มขึ้นจากเดิม เรียกว่า “อดิเรกลาภ” กล่าวเฉพาะหมวดอาหารมี 7 อย่าง คือ:-

(1) สังฆภัต = ภัตถวายสงฆ์

(2) อุทเทสภัต = ภัตถวายภิกษุที่สงฆ์คัดเลือกให้

(3) นิมันตนภัต = ภัตในกิจนิมนต์

(4) สลากภัต = ภัตถวายตามสลาก

(5) ปักขิกภัต = ภัตถวายในปักษ์

(6) อุโปสถิกภัต = ภัตถวายในวันอุโบสถ์

(7) ปาฏิปทิกภัต = ภัตถวายในวันปาฏิบท 

ถ้ามีภัตเหล่านี้เกิดขึ้น จะไม่ต้องออกบิณฑบาตก็ได้ 

..............

“สังฆภัต” อ่านว่า สัง-คะ-พัด ประกอบด้วยคำว่า สังฆ + ภัต

(๑) “สังฆ”

เขียนแบบบาลีเป็น “สงฺฆ” อ่านว่า สัง-คะ รากศัพท์มาจาก สํ (คำอุปสรรค = พร้อมกัน, ร่วมกัน) + หนฺ (ธาตุ = ไป, เป็นไป) + อ (อะ) ปัจจัย, แปลงนิคหิตที่ สํ เป็น ง (สํ > สงฺ), แปลง หนฺ เป็น ฆ

: สํ > สงฺ + หนฺ > ฆ + อ = สงฺฆ (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า -

(1) “หมู่เป็นที่ไปรวมกันแห่งส่วนย่อยโดยไม่แปลกกัน” หมายความว่า ส่วนย่อยที่มีคุณสมบัติหลักๆ “ไม่แปลกกัน” คือมีคุณสมบัติตรงกัน เหมือนกัน ส่วนย่อยดังกล่าวนี้ไปอยู่รวมกัน คือเกาะกลุ่มกัน ดังนี้เรียกว่า “สงฺฆ”

(2) “หมู่ที่รวมกันโดยมีความเห็นและศีลเสมอกัน” ความหมายนี้เล็งที่บรรพชิตหรือสาวกที่เป็นนักบวชในลัทธิศาสนาต่างๆ เช่นภิกษุในพระพุทธศาสนาเป็นต้น ต้องมีความคิดเห็นและความประพฤติลงรอยกันจึงจะรวมเป็น “สงฺฆ” อยู่ได้

“สงฺฆ” จึงหมายถึง หมู่, กอง, กลุ่ม, คณะ

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “สงฺฆ” เป็นอังกฤษว่า -

(1) multitude, assemblage (ฝูงชน, ชุมนุมชน, หมู่, ฝูง)

(2) the Order, the priesthood, the clergy, the Buddhist church (คณะสงฆ์, พระ, นักบวช, พุทธจักร)

(3) a larger assemblage, a community (กลุ่มใหญ่, ประชาคม)

“สงฺฆ” ปกติในภาษาไทยใช้ว่า “สงฆ์” ถ้าอยู่หน้าคำสมาสมักใช้เป็น “สังฆ-”

“สงฆ์” ในพระพุทธศาสนามีความหมาย 2 อย่าง คือ -

(1) “สาวกสงฆ์” หมายถึงหมู่สาวกของพระพุทธเจ้า ที่ได้บรรลุธรรมในภูมิอริยบุคคลคือเป็นพระโสดาบันขึ้นไป ดังคำสวดในสังฆคุณที่ว่า สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ 

(2) “ภิกขุสงฆ์” หมายถึงชุมนุมภิกษุหมู่หนึ่งตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไป ซึ่งสามารถประกอบสังฆกรรมได้ตามกำหนดทางพระวินัย 

บางทีเรียกอย่างแรกว่า “อริยสงฆ์” อย่างหลังว่า “สมมติสงฆ์”

(๒) “ภัต” 

บาลีเป็น “ภตฺต” อ่านว่า พัด-ตะ รากศัพท์มาจาก -

(1) ภชฺ (ธาตุ = เสพ, คบหา) + ต ปัจจัย, แปลง ชฺ เป็น ตฺ

: ภชฺ + ต = ภชต > ภตฺต แปลตามศัพท์ว่า “ของเป็นเครื่องเสพ” 

(2) ภุชฺ (ธาตุ = กลืนกิน, ใช้สอย) + ต ปัจจัย, แปลง อุ ที่ ภุ-(ชฺ) เป็น อ (ภุ > ภ), แปลง ชฺ เป็น ตฺ

: ภุชฺ + ต = ภุชต > ภชต > ภตฺต แปลตามศัพท์ว่า “ของที่จะพึงกลืนกิน” 

ข้อความบางแห่งในคัมภีร์ คำว่า “ภตฺต” หมายถึง “ข้าวสุก” โดยเฉพาะ แต่โดยทั่วไป “ภตฺต” หมายถึง อาหาร (ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นข้าว)

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ภตฺต” (นปุงสกลิงค์) ว่า food, nourishment, meal, feeding (อาหาร, ของบำรุงเลี้ยงร่างกาย, อาหารที่เป็นมื้อ, การเลี้ยง) 

บาลี “ภตฺต” สันสกฤตเป็น “ภกฺต”

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ -

“ภกฺต : (คำวิเศษณ์) อันมีความภักดีต่อ; อันเอาใจใส่; อันหุงหรือต้มแล้ว; attached to; attentive to; cooked or boiled; - (คำนาม) อาหาร; ข้าวอันหุงหรือต้มแล้ว; food; cooked or boiled rice.”

บาลี “ภตฺต” ภาษาไทยใช้เป็น “ภัต” และ “ภัตร” 

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า - 

“ภัต, ภัต-, ภัตร : (คำนาม) อาหาร, ข้าว. (ป. ภตฺต).”

สงฺฆ + ภตฺต = สงฺฆภตฺต (สัง-คะ-พัด-ตะ) แปลว่า “ภัตเพื่อสงฆ์” หมายถึง อาหารที่ถวายแก่สงฆ์ ในที่นี้หมายถึงภิกษุทั้งหมดที่อยู่ในอารามเดียวกัน

“สงฺฆภตฺต” ใช้ในภาษาไทยเป็น “สังฆภัต” อ่านว่า สัง-คะ-พัด

ขยายความ :

คำว่า “สังฆภัต” คำบาลีท่านใช้ว่า “สงฺฆภตฺตํ” (สังฆะภัตตัง) คำแปลเดิมท่านแปลว่า “ภัตถวายสงฆ์”

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต อธิบายคำว่า “สังฆภัต” ไว้ว่า -

......................

สังฆภัต: อาหารถวายสงฆ์ หมายถึงอาหารที่เจ้าของนำมา หรือส่งมาถวายสงฆ์ในอารามพอแจกทั่วกัน.

......................

ตามหลักที่เรารู้กัน “สงฆ์” คือภิกษุตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไป ถ้าว่าตามนี้ อาหารที่ถวายแก่ภิกษุตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไป คือที่เราเรียกกันว่า “สังฆทาน” ก็ควรเป็น “สังฆภัต” ได้ 

แต่ตามคำอธิบาย “สงฆ์” ในคำว่า “สังฆภัต” ท่านหมายถึงภิกษุทั้งหมดที่อยู่รวมกันในอาราม ถวายอาหารแก่ภิกษุทั้งหมดที่อยู่รวมกันในอารามเดียวกัน จึงจะเป็น “สังฆภัต” ถ้าพูดตามที่เราคุ้นกันก็ตรงกับคำว่า “เลี้ยงพระหมดวัด” นั่นเอง

ถวายอาหารแก่ภิกษุตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไป เรียกว่า “สังฆทาน” แต่อาจไม่ใช่ “สังฆภัต”

ถวายอาหารแก่ภิกษุหมดทั้งวัด จึงจะเป็น “สังฆภัต” และเป็น “สังฆทาน” ด้วย

..............

ดูก่อนภราดา!

: เลี้ยงพระหมดวัด

: คือสังฆภัตตัวจริง 

[full-post]

สังฆภัต 1 ในบิณฑบาตที่เป็นอดิเรกลาภ

แสดงความคิดเห็น

ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.