พระสงฆ์กับสังคมปัจจุบัน (๓)

---------------------------

ข้อความจากบทความ “เรื่องราวที่อยากเขียน”

..........................................................

... ในยุคที่โลกหมุนเร็วทุกๆวัน แต่พระสงฆ์ องค์เณรส่วนมาก ยังไม่เคยเข้าใจและพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับโลก ต่อไปจะอยู่ลำบาก เมื่อรู้ตัวอีกที ก็หลงยุคไปเสียแล้ว

..........................................................

ย่อหน้านี้ต้องการจะบอกอะไร?

“ในยุคที่โลกหมุนเร็วทุกๆวัน” = สังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เช่น 

- เครื่องมือเครื่องในชีวิตประจำวันเมื่อก่อนไม่มี เดี๋ยวนี้มีมากขึ้น ที่เห็นชัดๆ โทรศัพท์ เมื่อ ๕๐ ปีที่แล้ว โทรศัพท์ใช้สายมีใช้เป็นบางบ้าน เดี๋ยวนี้โทรศัพท์ไร้สายมีประจำตัวกันทุกคน และใช้ทำอะไรๆ ได้สารพัด 

- การครองชีพของผู้คนเปลี่ยนไป เมื่อก่อนหุงข้าวต้มแกงกินเองทุกบ้าน เดี๋ยวนี้ทุกมื้อซื้อกินแทบทุกบ้าน 

- นิสัยใจคอของคนไทยเปลี่ยนไป เมื่อก่อนเจอพระ นั่งลงยกมือไหว้ เดี๋ยวนี้เจอพระนอกจากจะไม่ไหว้แล้ว ยังแทบจะเดินชนพระอีกต่างหาก

- ค่านิยมเปลี่ยนไป เมื่อก่อนสามีภรรยาหย่าร้างกันเป็นเรื่องน่าเสียใจ เป็นเรื่องใหญ่ ผิดปกติ เดี๋ยวนี้การหย่าร้างถือเป็นเรื่องปกติที่สุด พูดกันถึงวันหย่าตั้งแต่ก่อนวันแต่งด้วยซ้ำไป

นี่เป็นตัวอย่างน้อยนิดที่-สังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หรือที่บทความใช้คำว่า “โลกหมุนเร็วทุกๆวัน”

“แต่พระสงฆ์ องค์เณรส่วนมาก ยังไม่เคยเข้าใจ” หมายความว่าอย่างไร? 

หมายความว่าพระเณรไม่เข้าใจความเปลี่ยนแปลงดังแสดงเป็นตัวอย่างนั้น? 

ทำไมจึงคิดว่าพระเณรไม่เข้าใจ ถ้ามีคนไม่เข้าใจ ทำไมจึงเจาะจงเฉพาะกลุ่มพระเณร กลุ่มอื่นๆ ที่ไม่เข้าใจ ไม่มีเลยหรือ ทุกภาคส่วนล้วนเข้าใจหมด มีเฉพาะกลุ่มพระเณรเท่านั้นที่โง่ๆ เซ่อๆ - เช่นนั้นหรือ?

.......................

“แต่พระสงฆ์ องค์เณรส่วนมาก ยังไม่--พร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับโลก” หมายความว่าอย่างไร? 

“ปรับตัวให้เข้ากับโลก” คืออย่างไร?

- ชาวโลกเขามีสิ่งใด พระเณรก็ต้องมีสิ่งนั้น-เช่นชาวบ้านเขามีโทรศัพท์ติดตัวกันทุกคน พระเณรก็ต้องมีโทรศัพท์ติดตัวกันทุกรูป อย่างนี้คือปรับตัวให้เข้ากับโลก-กระนั้นหรือ?

- ชาวโลกเขาดูละครดูหนังฟังเพลง พระเณรก็ต้องดูละครดูหนังฟังเพลงเหมือนเขา

- ชาวโลกเขานิยมอะไร พระเณรก็ต้องนิยมแบบนั้น เช่น ชาวโลกเขานิยมยกย่องคนจบดอกเตอร์ พระเณรก็ต้องพยายามเรียนให้จบดอกเตอร์เหมือนเขา

- ชาวโลกเขานิยมยกย่องคนมีตำแหนงวิชาการเป็นศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พระเณรก็ต้องพยายามเป็นศาสตราจารย์ เป็นรองศาสตราจารย์ เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ให้เหมือนเขา

- ชาวโลกเขาพูดอังกฤษกันทั่วโลก พระเณรก็ต้องพูดอังกฤษได้ด้วย

ฯลฯ

ฯลฯ

สรุปว่า พระเณรต้องเป็น ต้องทำ ต้องมี ให้เหมือนชาวโลก จึงจะถือว่าปรับตัวให้เข้ากับโลกได้ และถือว่าเป็นเรื่องที่ดี อย่างนั้นหรือ?

แน่นอน คนที่มีใจเป็นกลางเป็นปกติ-รวมทั้งคนที่เขียนบทความนั้นนั่นเอง-จะต้องบอกว่า ไม่ใช่แบบนั้น ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้น และไม่จำเป็นที่จะต้องทำถึงขนาดนั้น

เพราะฉะนั้น ก็ต้องมีคำอธิบายหรือคำจำกัดความที่ชัดเจนว่า เมื่อสังคมเปลี่ยนแปลงไปเช่นนั้น เราต้องการให้เณรทำอะไร ทำอย่างไร หรือเป็นแบบไหน

อย่างที่มักพูดว่ากันว่า “ทันโลก” ต้องบอกมาว่า ทำอะไร ทำอย่างไร เป็นแบบไหน จึงจะยอมรับว่าพระเณรทันโลก

.......................

“ต่อไปจะอยู่ลำบาก” อย่างไรเรียกว่าอยู่ลำบาก?

- ออกบิณฑบาตไม่ได้ เพราะไม่มีคนใส่บาตร หรือเพราะมีกฎหมายห้ามพระเณรออกบิณฑบาต พระเณรก็เลยอดๆ อยากๆ นี่คือ “อยู่ลำบาก” - ใช่ไหม?

- วัดที่จะอยู่ กุฏิที่จะพัก หายากขึ้น เพราะทางบ้านเมืองห้ามสร้างวัด ห้ามสร้างกุฏิวิหาร พระเณรไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน นี่คือ “อยู่ลำบาก” - ใช่ไหม?

- จะศึกษาเล่าเรียนอะไรก็ไม่มีใครยอมรับเข้าศึกษา พระเณรก็เลยอยู่ไปวันๆ แบบคนโง่ๆ เซ่อๆ แบบคนที่ไม่มีการศึกษา

- จะเดินทางไปไหนมาไหน ทำกิจธุระอะไร ติดขัดไปหมด

- จะออกไปติดต่อกับชาวบ้าน ก็ไม่มีใครพูดด้วย เพราะแต่งตัวไม่เหมือนเขา ไม่ทำอะไรๆ เหมือนเขา สังคมไม่ยอมรับ พระเณรก็เลยอยู่ลำบาก

ถ้าไม่ใช่อย่างที่ว่ามานี้ แล้วอย่างไรที่เรียกว่า “ต่อไปจะอยู่ลำบาก”?

ถ้าจะให้ช่วยจำกัดความ การอยู่ลำบากอาจหมายถึง --

๑ พระเณรขาดแคลนปัจจัยเครื่องดำรงชีพ

ปัจจัยเครื่องดำรงชีพของพระเณรได้มาจากชาวบ้าน ถ้าชาวบ้านยังอยู่ได้ พระเณรก็อยู่ได้ เหตุไรเล่าพระเณรจึงจะขาดแคลนปัจจัยเครื่องดำรงชีพ?

สมมุติว่า สังคมไทยไม่ต้องการให้มีพระเณรอีกต่อไปล่ะ แบบนี้ไม่ใช่แค่ “อยู่ลำยาก” แต่ “อยู่ไม่ได้” เลยทีเดียว แต่จะมีเหตุอะไรเล่าที่ทำให้สังคมไทยไม่ต้องการให้มีพระเณรอีกต่อไป? 

เหตุแบบนั้น-ถ้ามี ก็ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงรากฐานของสังคมกันเลยทีเดียว เช่นเปลี่ยนจากสังคมพุทธเป็นสังคมศาสนาอื่น ถ้าถึงขั้นนั้น ไม่ว่าจะปรับตัวอย่างไรพระเณรก็อยู่ไม่ได้แน่นอน และถ้าสังคมไทยจะเปลี่ยนแปลงถึงขนาดนั้นจริง ก็ต้อง “ทำวิจัย” กันอีกว่า การเปลี่ยนแปลงเช่นนั้นเกิดจากตัวพระเณร หรือเกิดจากชาวบ้าน หรือใครทำให้เกิด คราวนี้เป็นปัญหาระดับโลกกันเลย

อยู่ลำบากเพราะขาดแคลนปัจจัยเครื่องดำรงชีพ จึงน่าจะไม่ใช่

๒ พระเณรตามความก้าวหน้าทางวิทยาการไม่ทัน 

เช่น ใช้โทรศัพท์ไม่เป็น ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เป็น กดปุ่มไม่เป็น ใช้อุปกรณ์สมัยใหม่ไม่เป็น ออกจากวัดไปไหนก็ไปไม่ถูกเพราะโดยสารพาหนะสมัยใหม่ไม่เป็นหรือโดยสารไม่ได้เพราะเขาไม่ได้จัดที่ไว้ให้พระเณรโดยเฉพาะ ใช้ภาษาติดต่อสื่อสารกับชาวโลกไม่เป็น และถ้าสมมุติว่าสภาพสิ่งแวดล้อมบังคับให้ทุกคนต้องใช้ถุงอากาศหายใจ พระเณรก็ใช้ถุงอากาศไม่เป็น (เพราะพระเณรล้วนแต่โง่ๆ เซ่อๆ)

ถ้าอยู่ยากหมายถึงอย่างนี้ ก็อยู่ยากแน่

แต่พระเณรของเราทุกวันนี้โง่ๆ เซ่อๆ ถึงขนาดนี้แล้วหรือยัง?

และโดยหลักการของวิถีชีวิตสงฆ์-ซึ่งออกจากบ้านเรือนมาสู่ความเป็นผู้ไม่มีบ้านเรือน-จำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่จะต้องตามความก้าวหน้าทางวิทยาการให้ทันทุกฝีก้าวถึงขนาดนั้น?

๓ พระเณรไม่เข้าใจสภาพสังคม เช่น 

- คนไทยเดี๋ยวนี้เจอพระเณรเขาไม่ยกมือไหว้แล้ว ก็ไม่เข้าใจ ยังหลงละเมอเกณฑ์ให้คนไทยเคารพนับถือพระเณรเหมือนเมื่อพันปีที่แล้ว 

- คนไทยเดี๋ยวนี้วันพระเขาไม่เข้าวัดทำบุญกันอีกแล้ว ก็ไม่เข้าใจ ยังหลงละเมอเกณฑ์ให้คนไทยไปวัดทุกวันพระ-เหมือนคนคริสต์ไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ คนมุสลิมไปมัสยิดทุกวันศุกร์ 

- ผัวเมียไทยสมัยนี้เขาแต่งเช้าเลิกเย็น ก็ไม่เข้าใจ ยังหลงละเมอเกณฑ์ให้เขาอยู่กันจนถือไม้เท้ายอดทองตะบองยอดเพชร

ฯลฯ

ฯลฯ

เมื่อพระเณรไม่เข้าใจสภาพสังคมเช่นนี้ ก็เลยอยู่ยาก คืออยู่กับสังคมได้ยาก เพราะมองอะไรก็ผิดความจริงไปหมด ทำพูดคิดอะไรก็ขวางโลกเขาไปหมด

พระเณรของเราทุกวันนี้เป็นถึงขนาดนี้แล้วหรือยัง? 

หรือในอนาคต-อีก ๑๐ ปีข้างหน้า-พระเณรของเราจะเป็นถึงขนาดนี้ไหม?

อนึ่ง คำว่า “ปรับตัวให้เข้ากับโลก” นั้นสำคัญนัก ต้องจำกัดความกันให้ชัดและเป็นไปในแนวทางเดียวกันว่า ทำอะไรแค่ไหนอย่างไรจึงจะเป็นการปรับตัวให้เข้ากับโลก ถ้าไม่มีความชัดเจนไปตั้งแต่ต้นก็เละแน่

..........................................................

พระเณรต้องนุ่งกางเกงเหมือนชาวโลก จึงจะเป็นการปรับตัวให้เข้ากับโลก - ถ้ามีคนบอกอย่างนี้ ใครจะตัดสินว่าใช่หรือไม่ใช่ และใช้อะไรเป็นเกณฑ์ตัดสิน 

เรื่องนี้เรื่องเดียว ถ้าไม่มีหลักที่ถูกต้อง ก็เละแล้ว

..........................................................

พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย

๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๖

๑๖:๕๒ 

[full-post]

พระสงฆ์กับสังคมปัจจุบัน

แสดงความคิดเห็น

ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.