พระสงฆ์กับสังคมปัจจุบัน (๒)
---------------------------
ข้อความจากบทความ “เรื่องราวที่อยากเขียน”
..........................................................
ใครที่บวชมาสังกัดคณะสงฆ์ไทย ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา และอีก 10 ปีข้างหน้า จะอยู่ในช่วงที่คณะสงฆ์มีเปลี่ยนแปลงการปกครอง และเปลี่ยนไปตามสถานการณ์โลก และสังคม มากที่สุด....
..........................................................
ถ้าเอาปีพุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นตัวตั้ง คำว่า “ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา” ก็คือตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๔๖ เป็นต้นมา แต่เนื่องจากทราบไม่ได้ว่าบทความนี้เขียนขึ้นตั้งแต่ปีไหน ผมขอ “ยกประโยชน์ให้จำเลย” คือบวกให้อีกเท่าหนึ่ง คือในรอบ ๔๐ ปีที่ผ่านมา ก็จะตก-ตั้งแต่ปี ๒๕๒๖ เป็นต้นมา
ถามว่า ตั้งแต่ปี ๒๕๒๖ เป็นต้นมา คณะสงฆ์ทำอะไรที่เรียกได้ว่า “เปลี่ยนแปลงการปกครอง” หรือว่ามีใคร-เช่นรัฐบาลเป็นต้น-ทำอะไรบ้างที่เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองคณะสงฆ์?
เท่าที่ผมระลึกได้ในเวลานี้ เหตุการณ์ที่ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองคณะสงฆ์ก็คือ การยกเลิกพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับ พ.ศ.๒๔๘๔ และประกาศใช้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับ พ.ศ.๒๕๐๕ คือฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้
แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี ๒๕๐๕ ก่อนปี ๒๕๒๖ ถึง ๒๐ ปี
การปกครองคณะสงฆ์ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับ พ.ศ.๒๔๘๔ ที่เป็นหลักๆ คือ
(๑) มีสังฆสภา ประกอบด้วยสมาชิกไม่เกิน ๔๕ รูป
(๒) มีคณะสังฆมนตรีซึ่งประกอบด้วยสังฆนายก ๑ รูป สังฆมนตรีไม่เกิน ๙ รูป
(๓) แบ่งการบริหารคณะสงฆ์ส่วนกลางเป็นองค์การต่าง ๆ ๔ องค์การ คือ องค์การปกครอง องค์การศึกษา องค์การเผยแผ่ องค์การสาธารณูปการ แต่ละองค์การมี “สังฆมนตรีว่าการ” เป็นผู้รับผิดชอบ
เมื่อมีพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับ พ.ศ.๒๕๐๕ ออกมา ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองคณะสงฆ์อย่างขนานใหญ่ คือ
ยกเลิกสังฆสภา
ยกเลิกคณะสังฆมนตรี
ยกเลิกรูปแบบการบริหารคณะสงฆ์ส่วนกลางที่แบ่งเป็น “องค์การ” ๔ องค์การ
กำหนดให้มี “มหาเถรสมาคม” เป็นหน่วยงานรับผิดชอบการบริหารงานคณะสงฆ์
งานคณะสงฆ์ส่วนกลางที่เคยมี ๔ สาย มีหน่วยงานและตัวบุคคลรับผิดชอบชัดเจน ก็ละลายหายไป งานทุกอย่างรวมศูนย์อยู่ที่มหาเถรสมาคมแห่งเดียว
พรบ.คณะสงฆ์ ๒๕๐๕ กำหนดให้มหาเถรสมาคมมี “อำนาจหน้าที่” ... ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม ควบคุมและส่งเสริมการศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์
จะเห็นว่า มีงานคณะสงฆ์ส่วนกลางที่เคยมี ๔ สายรวมอยู่ด้วย และเพิ่มขึ้นอีก ๒ สาย คือ ศึกษาสงเคราะห์ และสาธารณสงเคราะห์
แต่ไม่ได้กำหนดตำแหน่งผู้รับผิดชอบไว้แน่ชัดเหมือนใน พรบ.คณะสงฆ์ ๒๔๘๔
แต่ พรบ.คณะสงฆ์ ๒๕๐๕ เปิดทางไว้ว่า -
..........................................................
เพื่อการนี้ ให้มหาเถรสมาคมมีอำนาจตรากฎมหาเถรสมาคม ออกข้อบังคับ วางระเบียบ ออกคำสั่ง มีมติหรือออกประกาศ โดยไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายและพระธรรมวินัยใช้บังคับได้ และจะมอบให้พระภิกษุรูปใดหรือคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการ ... เป็นผู้ใช้ “อำนาจหน้าที่” ก็ได้ (มาตรา ๑๕ ตรี วรรคสอง)
..........................................................
พูดง่ายๆ ว่า จะให้ใครรับผิดชอบงานอะไร ให้มหาเถรสมาคมไปกำหนดเอาเอง
ผลก็คือ จนถึงทุกวันนี้สังคมทั่วไปไม่ได้รับรู้ว่า งานทั้ง ๖ สายของคณะสงฆ์นั้น ตัวผู้รับผิดชอบคือใคร
ในส่วนการปกครองคณะสงฆ์ สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ตาม พรบ.คณะสงฆ์ ๒๕๐๕ ก็คือ “เจ้าคณะใหญ่” ดังที่รู้กันว่ามีเจ้าคณะใหญ่หนนั้นหนนี้
ส่วนเขตการปกครองก็แบ่งเป็นภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล
จังหวัด อำเภอ ตำบล เป็นของมีอยู่เดิม แต่ “ภาค” เป็นของเกิดใหม่ โดยรวมหลายจังหวัดเข้าเป็นภาค มีทั้งหมด ๑๘ ภาค กำหนดชื่อภาคเป็นตัวเลข
ผลก็คือ คนที่ไม่คุ้นเคยกับระบบการปกครองของคณะสงฆ์ เห็นตัวเลขชื่อภาคแล้วไม่มีทางรู้ได้ว่าภาคนั้นๆ อยู่ส่วนไหนของประเทศ!!
เรื่องหลักๆ ของการเปลี่ยนแปลงการปกครองคณะสงฆ์เท่าที่มองเห็นก็มีตามที่ว่ามานี้
เรื่องปลีกย่อยอาจมีอีก เช่นอำนาจการแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ และสมณศักดิ์ ซึ่งเดิมเคยเป็นแบบนั้น บัดนี้เปลี่ยนมาเป็นแบบนี้-อย่างนี้เป็นต้น ที่ว่าเป็นเรื่องปลีกย่อยเพราะไม่ได้ทำให้โครงสร้างการปกครองเปลี่ยนแปลง
ท่านผู้ใดนึกเรื่องอะไรได้อีก ขอความกรุณาช่วยกันบูรณาการ เพื่อเป็นองค์ความรู้ที่ถูกต้องร่วมกัน
การเปลี่ยนแปลงการปกครองคณะสงฆ์ตามที่ว่ามานี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี ๒๕๐๕ คือ ๖๐ ปีมาแล้ว ไม่ใช่ “ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา” อย่างที่บทความว่าไว้-ซึ่งแม้จะแถมให้เป็น ๔๐ ปีที่ผ่านมา ก็ยังไม่ใช่อยู่นั่นเอง
ท่านผู้ใดเห็นว่า มีอะไรที่เป็น “การเปลี่ยนแปลงการปกครองคณะสงฆ์” และเกิดขึ้นภายใน ๔๐ ปีที่ผ่านมา ขอความกรุณาช่วยกันบูรณาการ เพื่อเป็นองค์ความรู้ที่ถูกต้องร่วมกัน
ส่วน “อีก 10 ปีข้างหน้า” จะมีอะไรเกิดขึ้นที่แสดงถึง “คณะสงฆ์มีเปลี่ยนแปลงการปกครอง และเปลี่ยนไปตามสถานการณ์โลก และสังคม มากที่สุด” ตามที่บทความคาดไว้ ก็ต้องติดตามดูกันต่อไป
..........................................................
ขอซ้อมความเข้าใจว่า ข้อเขียนของผมในชุด “พระสงฆ์กับสังคมปัจจุบัน” ที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้ ตั้งใจยกข้อความในบทความเรื่อง “เรื่องราวที่อยากเขียน” มาพิจารณาเป็นตอนๆ ไป เป็นการ “ชวนกัน” และ “ช่วยกัน” อ่านบทความเรื่องนั้นให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อที่เราจะได้มีท่าทีที่ถูกต้องเหมาะสมว่า พระสงฆ์กับสังคมปัจจุบันควรเป็นไปอย่างไร
..........................................................
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖
๒๐:๐๔
..........................................................
พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พุทธศักราช ๒๔๘๔
https://nwt.onab.go.th/.../202104085cb5920dcc9d4314d3acf2...
..........................................................
พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕
https://ssc.onab.go.th/.../202105080effa87d1b892bfc36a4bf...
..........................................................
[full-post]
แสดงความคิดเห็น
ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ