สมเกียรติ พลเดชอุดมคุณ
อะไรเล่า? เป็นเป็นมูล(เหตุที่เป็นประธาน)แห่งอัทธานะทั้ง 3 กาล(อัทธานตามศัพท์แปลว่ากาลอันยาวไกล แต่ในที่นี้คู่สนทนาท่านใช้เป็นศัพท์สำนวน จึงหมายเอาสิ่งที่มีกาล ก็คือสังขารธรรมนั่นเอง รู้ได้จากคำถามมีคำกำกับว่า ฝ่ายอดีต, ฝ่ายอนาคต, ฝ่ายปัจจุบัน การละเลยสำนวน 55 นัย สักแต่ว่าแปลตามไวยากรณ์จึงขาดอรรถรส นับเป็นสาเหตุหนึ่งที่เข้าถึงสาระประเด็นที่ปราชญ์คู่สนทนากันไม่ได้)
อัทธานมูลปัญหา
พระเจ้ามิลินท์ " พระคุณเจ้านาคเสน อะไรเป็นมูลแห่งอัทธานะ(สิ่งที่มีกาล คือสังขารธรรม)ฝ่ายอดีต, อะไรเป็นมูลแห่งอัทธานะ(สิ่งที่มีกาล คือสังขารธรรม)ฝ่ายอนาคต, อะไรเป็นมูลแห่งอัทธานะ(สิ่งที่มีกาล คือสังขารธรรม)ฝ่ายปัจจุบันเล่า? "
พระนาคเสน " ขอถวายพระพร มหาบพิตร อวิชชาเป็นมูลอัทธานะฝ่ายอดีต, แห่งอัทธานะฝ่ายอนาคต และแห่งอัทธานะฝ่ายปัจจุบัน, คือว่า เพราะอวิชชาเป็นปัจจัยก็ย่อมมีสังขาร, เพราะสังขารเป็นปัจจัยก็ย่อมมีวิญญาญ เพราะวิญญาณเป็นปัจจัยก็ย่อมมีนามรูป, เพราะนามรูปเป็นปัจจัยก็ย่อมมีอายตนะ 6 เพราะอายตนะ 6 เป็นปัจจัยก็ย่อมมีผัสสะ, เพราะผัสสะเป็นปัจจัยก็ย่อมมีเวทนา, เพราะเวทนาเป็นปัจจัยก็ย่อมมีตัณหา, เพราะตัณหาเป็นปัจจัยก็ย่อมมีอุปาทาน, เพราะอุปทานเป็นปัจจัยก็ย่อมมีภพ, เพราะภพเป็นปัจจัยก็ย่อมมีชาติ, เพราะชาติเป็นปัจจัยก็ย่อมชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัสสะ อุปายาสะ.ปลายสุดทั้ง 2 ข้าง คือข้างต้นกับข้างปลายจึงไม่ปรากฏเพราะเป็นวงจรแห่งการเป็นปัจจัยกันของกองทุกข์ซึ่งก็คืออัทธานะในความหมายเป็นศัพท์สำนวนว่า เป็นสิ่งที่มีกาล คือ สังขารธรรมอันเป็นกองทุกข์ มิใช่ศัพท์อัทธานะในความหมายว่ากาลเวลาที่ยาวไกล เพราะแม้อวิชชาเองก็เป็นสังขารธรรม เมื่อยังละอาสวะไม่ได้, ได้อาสวะเป็นปัจจัยอวิชชาก็ย่อมเกิดขึ้น สมดังในพระบาลีที่ทรงตรัสว่า " อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย - เพราะอาสวะเกิดขึ้น อวิชชาจึงเกิดขึ้น " (ม.มู.12/87) ดังนั้น อวิชชาจึงหาได้ชื่อว่า เป็นส่วนสุดข้างต้นของอัทธานะศัพท์สำนวนไม่
แม้ในปฏิจจสมุปบาทก็ทรงตรัสไว้ว่า พึงทราบว่าเหตุที่เป็น ประธานในปฏิจจสมุปบาทมีเพียง 2 คือ :-
1. อวิชชา ซึ่งเปรียบเสมือนพ่อตาบอด เพราะความไม่รู้
2. ตัณหา ซึ่งเปรียบเสมือน ลูกสาวที่หาเลี้ยงพ่อตาบอด เพราะตนเป็นนายทาส คือ กรรม เจตนาจะพ้นจากความเป็นทาสไม่เป็นกรรม คือสักแต่ว่าเป็นกริยาจิต เช่น พระอรหันต์ ก็ต้องละตัณหาได้เป็นสมุจเฉทปหานเท่านั้นแล."
พระเจ้ามิลินท์ " พระคุณเจ้านาคเสน ท่านตอบได้เหมาะสมกับเหตุผลแล้ว "
--------///--------
แสดงความคิดเห็น
ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ