พระสงฆ์กับสังคมปัจจุบัน (๑)
---------------------------
เมื่อเร็วๆ นี้ มีญาติมิตรส่งบทความเรื่องหนึ่งมาให้ผมอ่าน อ่านแล้วก็คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยอ่านที่ไหนมาก่อนนานมาแล้ว
อ่านครั้งก่อนที่ว่า-คลับคล้ายคลับคลา จำไม่ได้ว่าใครเขียน ที่ส่งมาคราวนี้ก็ไม่ได้ลงชื่อผู้เขียน
บทความต้นฉบับจริงอาจลงชื่อผู้เขียน-จะเป็นชื่อจริงหรือนามแฝงก็ช่างเถอะ แต่คนที่เอาบทความมาเผยแพร่ต่อทำชื่อหล่นหาย หรือจงใจตัดชื่อออก เมื่อลอกต่อๆ กันไปหลายๆ ทอด ก็เลยกลายเป็นบทความที่ไม่มีชื่อผู้เขียน
ก็เลยจำเป็นต้องสรุปเป็นข้อยุติไว้ทีก่อนว่า บทความนี้-หรือบทความทำนองนี้ หรือบทความจากกลุ่มนี้ ไม่นิยมเปิดเผยตัวผู้เขียน หรือแม้ลงชื่อผู้เขียนก็มักเป็นนามแฝง ตัวจริงเป็นใครไม่ให้ใครรู้ - สรุปแบบนี้ไว้ก่อน จริงไม่จริงค่อยว่ากันอีกที
และพึงตั้งหลักให้ถูกว่า เมื่ออ่านบทความแบบนี้ ขอให้ตัดประเด็น “ใครเขียน” ออกไป สนใจเฉพาะ “เขียนอะไร” เท่านั้นพอ
ขอนำบทความที่ได้รับมาเสนอไว้ในที่นี้ เพื่อให้มี “ตัวบท” หรือ “ต้นเรื่อง” เป็นหลักฐาน ต่อจากนั้นจะได้แสดงความคิดเห็นตามที่เห็นสมควร
ขอเชิญอ่านครับ
(สะกดการันต์วรรคตอนคงตามต้นฉบับ)
...................................................
... #เรื่องราวที่อยากเขียน ...
ใครที่บวชมาสังกัดคณะสงฆ์ไทย ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา และอีก 10 ปีข้างหน้า จะอยู่ในช่วงที่คณะสงฆ์มีเปลี่ยนแปลงการปกครอง และเปลี่ยนไปตามสถานการณ์โลก และสังคม มากที่สุด....
... ในยุคที่โลกหมุนเร็วทุกๆวัน แต่พระสงฆ์ องค์เณรส่วนมาก ยังไม่เคยเข้าใจและพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับโลก ต่อไปจะอยู่ลำบาก เมื่อรู้ตัวอีกที ก็หลงยุคไปเสียแล้ว
.... ในยุคที่ ระบบเงินสดจะหมดไปจากสังคม แต่ อีเพย์ คิวอาร์โค้ด จะเข้ามาแทนที่ คนจะยกมือท่วมหัวพร้อมกับแบงค์ 20 -100 ทำบุญใส่บาตรก็จะหมดไป พระรับนิมนต์ไปสวดมนต์รับปัจจัยเงินทองก็จะยากขึ้น ชีวิตพระเณรจะอยู่ลำบากขึ้น ถ้าไม่ปรับตัว เตรียมตัวเสียตั้งแต่วันนี้ ไม่เชื่อคอยดู ไม่เกิน 10 ปี
..... ในยุคนี้ คนไทยไม่ได้นับถือพระเหมือนเมื่อก่อน แม้จะเป็นคนพุทธก็ตาม ชาวพุทธบางคนด่าพระ นักวิชาการนักศึกษา ข้าราชการ นักธุรกิจ รุ่นใหม่บางส่วน มองพระเป็นคนไร้สาระ ไม่มีประโยชน์
... ดังนั้น พระสงฆ์ต้องรู้ตัวเอง การจะก้าวย่างไปในสังคม ต้องดูหน้าดูหลัง จะเรียกร้องนั่น โน่น นี่ เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ คนที่ศรัทธาก็มี แต่คนที่เกลียดก็เยอะ เป็นพระในยุคนี้ อย่าเยอะ....ดูความเหมาะสมให้มาก
... ในยุคนี้ พระต้องอยู่ภายใต้ กฎหมาย 3 ฉบับ คือ กฎพระวินัย กฎมหาเถรสมาคม และกฎหมายบ้านเมือง ณ ปัจจุบัน ผู้คนไม่ได้เกรงใจพระเหมือนสมัยโบราณ เขาพร้อมจะใช้กฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่งจัดการขย้ำให้ตายคามือ
ดังนั้น จะทำอะไร ให้คิดให้รอบคอบ เช่นการสร้างวัดสร้างถาวรวัตถุ การแสดงออกทางสังคม การแสดงออกผ่านสื่อ จากที่เป็นที่เคารพนับถือ คุณจะกลายเป็นเหยื่อทันที
... ยุคนี้เป็นยุคที่อำนาจวาสนาไม่มีอะไรแน่นอน ยศศักดิ์ ตำแหน่ง เป็นภาพลวงตา ไม่ควรหลงให้มาก หากดำรงอยู่ในตำแหน่งจงปฏิบัติตัวให้สมกับตำแหน่ง ตำแหน่งต่างๆทางคณะสงฆ์ไม่ใช่ตำแหน่งกินเมืองเหมือนในอดีต แต่เป็นตำแหน่งที่มาพร้อมกับ ภาระ หน้าที่ และความรับผิดชอบ หากวันใดพลาด มาตรา 157 รอเล่นงานอยู่เสมอ
... บางครั้งการปล่อยวาง และการไม่มีตำแหน่งอะไรเป็นการดีและปลอดภัยที่สุด สำหรับผู้บวชมาเพื่อแสวงหาความสงบ และบุญกุศล
...# ในอนาคต สถานการณ์จะบีบครั้นพระสงฆ์มากขึ้น สมัยก่อน ถ้าโพสต์ภาพพระไปช่วยทำนา คนจะยกมือสาธุ
... แต่ในปัจจุบัน หากมีการโพสต์แบบนั้นจะมีคนบางคนด่าว่า...ไอ้.... เป็นพระไม่รู้จักหน้าที่......หรือเดินฉายไฟฉายโดนตบ....นี่แค่ตัวอย่างเดียว หรือแค่โพสต์ภาพพระไปนั่งฉันชาบู หรือ ไปนั่งฉันอาหารริมแพ แค่นั้น ก็จะโดนสังคมรุมด่า ยังกะไปฆ่าข่มขืนพ่อแม่เขาเจ็ดชั่วโคตร
ดังนั้น พระสงฆ์จะต้องรู้จักว่า อันไหนควรไม่ควร
... ในอนาคต แค่พระสงฆ์โพสต์ภาพคู่กับล็อตเตอรี่ หรือ ไปนั่งทำพิธีกรรม หรือ ดูดวง ให้กับญาติโยม วันดีคืนดี จะโดนจู่โจมและโดนจับสึกโดยไม่รู้ตัว
... #ในยุคปัจจุบัน สังคมพุทธปัญญาชน จะเรียกร้อง และจับผิดพระสงฆ์มากขึ้น
... หลายๆฝ่ายจะทำตัวเป็นผู้รู้พระพุทธธรรมมากกว่าพระ และจะดูหมิ่นดูถูกพระ จะสอนพระ ชี้นิ้วตัดสินถูกผิดพระ โดยที่ตัวเองรักษาศีลได้ไม่เท่าพระ พวกนี้เรียกว่า กลุ่มพุทธกระแสรอง...หรือกระแสนอก พวกนี้อันตรายมากกว่าคนต่างศาสนาเสียอีก
... ต่อไป กฎหมายจะเข้ามาบังคับใช้กับสถาบันศาสนามากขึ้น เช่น การเก็บภาษี การขออนุญาตต่างๆให้ถูกต้อง การปลูกสร้างอาคาร พระสงฆ์ในอนาคตจะต้องดำเนินการต่างๆให้ถูกต้อง ชัดเจน เพราะข้าราชการคนนี้อาจจะหยวนได้ แต่คนใหม่มาอาจจะบังคับใช้กฎหมายเต็มที่ นั่นหมายความว่า ปัญหาต่างๆจะตามมาทันที
... ยุคเก่า ป่าช้า เป็นสถานที่พระสงฆ์สามารถไปสร้างที่พัก สำนักสงฆ์ได้ แต่ยุคนี้ ป่าช้า คือสาธารณะประโยชน์ ถ้าบุกรุกโดนคดีแน่นอน อย่าไปสร้างถาวรวัตถุบนที่ที่ไม่ใช่กรรมสิทธิ์อย่างถูกต้อง
... #สรุปคือ ในอนาคตพระสงฆ์จะอยู่ลำบาก ถ้าไม่ยอมปรับตัว ตื่นตัว รู้ทันสังคมโลก ส่วนมากพระสงฆ์ที่รู้ทันโลกมากคือ พระที่ศึกษา และพระนักปฏิบัติจริงๆ
#แต่ท่านที่นอนอยู่เฉยๆบิณฑบาตกินไปวันๆ จะเป็นกลุ่มที่ล้าหลังมากที่สุด ดังนั้น จงเรียนรู้ ตื่นตัว รู้เท่าทัน ให้มากที่สุด
...................................................
(จบบทความ)
.....................
อ่านแล้วขอเชิญญาติมิตรช่วยกันตรึกตรอง มีประเด็นไหนบ้างที่ควรพินิจพิจารณา ควรอภิปรายถกเถียง เพื่อให้เกิดความรู้ความคิดความเข้าใจที่ถูกต้อง อันจะนำไปสู่ท่าทีและการปฏิบัติที่ถูกต้องต่อไป
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖
๑๑:๔๙
[full-post]
แสดงความคิดเห็น
ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ