"สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ"
ชื่อว่า สาตถะ เพราะประกอบด้วยอรรถ ๖ อย่าง คือ
๑. สังกาสนะ แสดงความโดยสังเขป - กุสลาธมมา ธรรมที่เป็นความดีมีอยู่
๒. ปกาสนะ เริ่มแสดงเป็นหัวข้อ ได้แก่กุสลจิต ๒๑ เจตสิก ๓๘
๓. วิวรณะ ขยายความ - กามาวจรกุสล ๘, มหัคตกุสล 5, โลกุตรกุสล ๕ (มรรคจิต ๕ นับตามฌาน)
๔. วิภชนะ จำแนกความ - กุสลกรรมบถ ๑๐, บุญกี้ริยาวัตถุ ๑๐, รูปฌาน ๕, อรูปฌาน ๔, มัคจิต ๔ (นับตามการประหาณกิเลส)
๕. อุตตานีกรณะ ทำเนื้อความให้ตื้น - ทาน, ศีล, ภาวนา
๖. บัญญัติ แต่งความให้เข้าใจ - อุปมาอุปมัยให้เข้าใจ
ชื่อว่า สัพพยัญชนะ เพราะความถึงพร้อมแห่งบทพยัญชนะ ๖ คือ
*หนังสือ ได้แก่
(๑) อักขระ ตัวหนังสือ
(๒) บท ความข้อหนึ่ง (คำที่ประกอบวิภัติ)
*คำพูด ได้แก่
๓. พยัญชนะ คำพูด (พากย์)
๔. อาการ คำพูดที่กล่าวออกไป (จำแนกพากย์ออกไป)
๕. นิรุติ ภาษา (วิเคราะห์ศัพท์)
๖. นิเทศ ขยายภาษาให้พิสดาร
- ชื่อว่า "สาตถะ (สาตฺถํ)" เพราะความเป็นคุณลึกโดยอรรถ และโดยปฏิเวธ
- ชื่อว่า "สัพพยัญชนะ (สพฺยญฺชนํ)" เพราะความเป็นคุณลึกโดยธรรม และโดยเทศนา
หรือ
- ชื่อว่า "สาตถะ" เพราะเป็นวิสัยอัตถปฏิสัมภิทาและปฏิภาณปฏิสัมภิทา
- ชื่อว่า "สัพพยัญชนะ" เพราะเป็นวิสัยแห่งธรรมปฏิสัมภิทา และนิตติปฏิสัมภิทา
หรือ
- ชื่อว่า "สาตถะ" เพราะเหตุเป็นคุณยังคนมีปัญญาให้เลื่อมใส
- ชื่อว่า "สัพพยัญชนะ" เพราะเหตุเป็นคุณยังคนทั่วไปให้เลื่อมใส
- ชื่อว่า "สาตถะ" เพราะมีอธิบายลึกซึ้ง
- ชื่อว่า "สัพพยัญชนะ" เพราะมีบทตื้น
อีกนัยหนึ่ง
- ชื่อว่า "สาตถะ" เพราะความเข้าถึง (ปฏิเวธ) ด้วยปฏิบัติ
- ชื่อว่า "สัพพยัญชนะ" เพราะมีความกระจ่างในอาคม (ปริยัติ) ด้วยการเรียน
คำว่า "บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง"
- "บริสุทธิ์" เพราะความเป็นธรรมที่หาโทษมิได้ (ไม่มีข้อต้องตัดออก)
- "บริบูรณ์สิ้นเชิง (เกวลปริปุณฺณํ) เพราะความที่สมบูรณ์ไม่มีข้อที่จะต้องเพิ่มเติมอีก
อีกนัยหนึ่ง
- ปริยัติธรรม ชื่อว่า "สวากขาตธรรม" เพราะไม่มีอรรถวิปลาส เหมือนอย่างอรรถของพวกเจ้าลัทธิอื่น จัดว่าถึงความวิปลาส เพราะธรรมที่เขากล่าว
ว่าเป็นอันตรายิกธรรมทั้งหลาย หามีความเป็นธรรมที่ทำอันตรายไม่ และเพราะธรรมที่เขากล่าวว่า เป็นนิยยานิกธรรมทั้งหลาย ก็หาเป็นธรรมที่นำออกจากทุกข์
ได้ไม่ เจ้าลัทธิอื่นเหล่านั้น จึงเป็นผู้มีธรรมเป็นทุรักขาตะ (กล่าวชั่ว)
- โลกุตรธรรม ชื่อว่า "สวากขาตธรรม" เพราะตรัส ข้อปฏิบัติอันสมควรแก่พระนิพพาน และพระนิพพานสมควรแก่ข้อปฏิบัติ ดังในมหาโควินทสูตร ท้าวสักก-
เทวราชทรงกล่าวว่า "ก็แลปฏิปทานี้ให้ถึงพระนิพพาน พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ดีแล้วแก่สาวกทั้งหลาย พระนิพพานและปฏิปทาย่อมเข้ากันได้ อุปมา
เหมือนน้ำในแม่น้ำคงคา ย่อมเข้ากันย่อมผสมกันได้กับน้ำในแม่น้ำยมุนา ฉันใดก็ดี ปฏิปทาอันให้ถึงพระนิพพาน พระผู้มีพระภาคได้ทรงบัญญัติไว้ดีแล้วแก่สาวกทั้งหลาย พระนิพพานและปฏิปทาย่อมเข้ากันได้ฉันนั้น
*อนึ่ง โลกุตรธรรมนั้น คือ
- "อริยมัค" อันเป็นทางสายกลาง ไม่เข้าไปใกล้ที่สุดทั้ง ๒ ข้าง ชื่อว่า สวากขาตธรรม
- "อริยผล" และพระนิพพาน ก็ชื่อว่า สวากขาตธรรม
[full-post]
แสดงความคิดเห็น
ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ