ทิฏฐุชุกรรม - การทำความเห็นให้ตรง

ทิฏฐชุกรรม แปลว่า "การทำความเห็นให้ตรง"

ใจความก็คือ สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ ความเห็นถูกต้องนั่นเอง สัมมาทิฏฐินี้มี ๕ อย่าง คือ

๑. กัมมัสสกตาสัมมาทิฏฐิ แปลว่า "ความเห็นชอบว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน" หมายความว่า ตนทำกรรมอะไรไว้ จะเป็นกรรมดีก็ตาม จะเป็นกรรมชั่วก็ตาม ตนต้องเป็นผู้รับผลของกรรมที่ตนทำ จะมอบหมายให้ผู้อื่นรับแทนมิได้

๒. ฌานสัมมาทิฏฐิ แปลว่า "ความเห็นชอบที่ประกอบกับฌาน" คือปัญญาเกี่ยวกับฌาน เกิดขึ้นร่วมกันกับฌานที่เจริญได้

๓. วิปัสสนาสัมมาทิฏฐิ แปลว่า "ความเห็นชอบที่เป็นวิปัสสนา" เป็นชื่อของปัญญาที่รู้สังขารทั้งหลายตามความเป็นจริงว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ที่เรียกว่าเห็นไตรลักษณ์

๔. มัคคสัมมาทิฏฐิ ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ อันเป็นองค์มรรคองค์แรกในบรรดาองค์มรรค ๘ เกิดขึ้นแล้ว ก็รู้เห็นอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง

๕. ผลสัมมาทิฏฐิ ได้แก่ สัมมาทิฏฐิที่เกิดร่วมกับพระอริยผลทั้งหลาย มีพระโสดาปัตติผลเป็นต้นนั่นเอง ได้แก่ปัญญาที่เกิดร่วมกับผลจิตทั้งหลายอันเป็นวิบากของมรรค ในสัมมาทิฏฐิ ๕ อย่างนี้ ผลสัมมาทิฏฐิอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ใช่บุญกิริยา เพราะไม่ใช่บุญ แต่เป็นผลของบุญ

      ปัญญาที่รู้เหตุผลตรงต่อความเป็นจริงทั้งหลายแม้ไม่อาจสงเคราะห์เข้าในส้มมาทิฏฐิ ๕ อย่างเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งโดยตรง ก็จัดว่าเป็นสัมมาทิฏฐิได้ เพราะมีคติเป็นสัมมาทิฏฐิ รวมทั้งความรู้ที่ได้จากการเรียนปริยัติธรรม บุญคือสัมมาทิฏฐิทั้งหลาย เรียกว่า "ทิฏฐุชุกรรม" ในที่นี้ทิฏฐุชุกรรมหรือสัมมาทิฏฐินี้ สงเคราะห์เข้าในบุญกิริยาวัตถุได้ทั้ง ๓ ข้อ คือ ทาน ศีล ภาวนา เป็นตัวควบคุมให้การกระทำ นับได้ว่าเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนา เพราะเป็นความรู้ที่ถูกต้อง เกี่ยวกับเรื่องทาน ศีล ภาวนา ที่เรียกว่า "บุญ" กล่าวคือ บุญที่เรียกว่าทานเป็นไฉน บุญที่เรียกว่าศีลเป็นไฉน บุญที่เรียกว่าภาวนาเป็นไฉน ขึ้นอยู่กับตัวทิฏฐชุกรรม หมายความว่า ทานจะเป็นทานได้ก็เพราะอาศัยปัญญาสัมมาทิฏฐิ ศีลจะเป็นศีลได้ก็เพราะอาศัยปัญญาสัมมาทิฏฐิ ภาวนาก็เช่นเดียวกัน

--------///--------


[full-post]

สัมมาทิฏฐิ,ทิฏฐุชุกรรม

แสดงความคิดเห็น

ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.