ทองย้อย แสงสินชัย


อริยบุคคล

----------

นี่เป็นหญ้าปากคอกอีกเรื่องหนึ่งที่ชาวพุทธมักจะเข้าใจว่ารู้แล้ว แต่อันที่จริงยังไม่เข้าใจ

“อริยบุคคล” แปลว่า “คนผู้เป็นอริยะ” หมายถึงท่านผู้ปฏิบัติธรรมจนได้บรรลุมรรคผลพ้นจากสภาวะปุถุชน

อริยบุคคลแบ่งเป็น ๔ ระดับ คือ -

๑ พระโสดาบัน แปลว่า “ผู้เข้าถึงกระแสธรรม” แต่ยังไม่หมดกิเลส จะเกิดอีกไม่เกิน ๗ ชาติ

ผู้ที่เป็นพระโสดาบันต้องไม่มีกิเลส ๓ ตัวนี้ คือ -

(๑) สักกายทิฏฐิ ความเห็นว่าเป็นตัวของตน เช่น เห็นรูป เห็นเวทนา เห็นวิญญาณ เป็นตนเป็นต้น 

(๒) วิจิกิจฉา ความสงสัย, ความลังเล ไม่แน่ใจในหลักสัจธรรม 

(๓) สีลัพพตปรามาส ความถือมั่นศีลพรต ถือว่าทำอย่างนี้ขลัง ทำอย่างนี้ศักดิ์สิทธิ์ ทำตามๆ กันไปอย่างงมงาย

๒ พระสกทาคามี (หรือ สกิทาคามี) แปลว่า “ผู้จะหวนมาอีกครั้งเดียว”

ผู้ที่เป็นพระสกทาคามีนอกจากไม่มีกิเลส ๓ ตัวแบบเดียวกับพระโสดาบันแล้ว ยังต้องทำกิเลส ๒ ตัวนี้ให้เบาบางด้วย คือ -

(๑) กามราคะ ความกำหนัดในกาม, ความติดใจในกามคุณ 

(๒) ปฏิฆะ ความกระทบกระทั่งในใจ, ความหงุดหงิดขัดเคือง 

หมายความว่าพระสกทาคามียังมีกามราคะและปฏิฆะ แต่เบาบางมาก คือมีอยู่ในใจลึกๆ แสดงออกเป็นการกระทำน้อยที่สุด

๓ พระอนาคามี แปลว่า “ผู้ไม่มา (เกิดเป็นมนุษย์)”

ผู้ที่เป็นพระอนาคามีต้องไม่มีกิเลส ๕ ตัว คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส กามราคะ ปฏิฆะ 

๔ พระอรหันต์ แปลว่า “ผู้ไม่มีกิเลส” ไม่เกิดในภพภูมิใดๆ อีก

พระอรหันต์ต้องไม่มีกิเลส ๑๐ ตัว คือ ๕ ตัวเหมือนพระอนาคามี และอีก ๕ ตัว คือ -

(๖) รูปราคะ ความติดใจในอารมณ์แห่งรูปฌาน หรือในรูปธรรมอันประณีต, ความปรารถนาในรูปภพ 

(๗) อรูปราคะ ความติดใจในอารมณ์แห่งอรูปฌาน หรือในอรูปธรรม, ความปรารถนาในอรูปภพ 

(๘) มานะ ความสำคัญตน คือ ถือตนว่าเป็นนั่นเป็นนี่ 

(๙) อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน 

(๑๐) อวิชชา ความไม่รู้จริง, ความหลง 

..........................................

ชื่อกิเลสทั้ง ๑๐ ตัว เป็นศัพท์วิชาการ ยังไม่เข้าใจก็ฟังผ่านๆ ไปก่อน ถ้าอยากเข้าใจว่ามันคืออะไรก็ต้องค่อยๆ ศึกษาเรียนรู้ไป ท่านที่เบื่อหน่ายหรือรังเกียจคำบาลี อาจจะลำบากใจหน่อย 

..........................................

พึงเข้าใจต่อไปอีกว่า อริยบุคคลระดับโสดาบันถึงอนาคามี ยังไม่หมดกิเลส แต่เบาบางไปตามลำดับ ยังครองเพศฆราวาสอยู่ก็ได้ 

นางวิสาขาเป็นโสดาบันตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ โตขึ้น แต่งงาน มีลูก ๒๐ คน

อนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นโสดาบัน ประกอบธุรกิจระดับพันล้าน 

พระอานนท์ที่เราคุ้นชื่อ ท่านเป็นแค่พระโสดาบัน ตอนพระพุทธเจ้าปรินิพพานพระอานนท์ร้องไห้เหมือนคนทั่วไป (พระอรหันต์ไม่หัวเราะไม่ร้องไห้) พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ๓ เดือนท่านจึงบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

เรื่องเล็กๆ เหล่านี้เรามักไม่ได้นึกถึง

อริยบุคคลระดับพระอรหันต์ หมดกิเลสสิ้นเชิง ต้องครองเพศบรรพชิตเท่านั้น ฆราวาสที่บรรลุธรรมระดับอรหันต์ ต้องบวช ถ้าไม่บวชจะนิพพานภายในวันนั้น (ภายในวันนั้น ไม่ใช่ภายใน ๗ วัน)

ใครเป็นพระอริยบุคคลระดับไหน ผู้เป็นอริยบุคคลระดับเดียวกันหรือสูงกว่าเท่านั้นจึงจะรู้ได้บอกได้ 

เพราะฉะนั้น ใครที่ชอบพูดว่า หลวงปู่องค์นั้นหลวงพ่อองค์โน้นเป็น “อริยสงฆ์” ก็เท่ากับบอกว่าตัวผู้พูดนั้นก็เป็นอริยบุคคลด้วยนั่นเอง

พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย

๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๕

๑๘:๐๑ 

[full-post]

อริยะ,อริยบุคคล

แสดงความคิดเห็น

ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.