สมเกียรติ พลเดชอุดมคุณ
กัมมจตุกก(ตอนที่สี่.ค)
กรรม ๔ อย่าง โดยเกี่ยวกับสถานที่เผล็ดผล
ชื่อว่า กรรม มี ๔ อย่าง อย่างนั้นเหมือนกัน โดยเกี่ยวกับสถานที่ที่เผล็ดผล
คือ อกุศลกรรม ๑, กามาวจรกุศลกรรม ๑, รูปาวจรกุศลกรรม ๑, อรูปาวจรกุศลกรรม ๑
รูปาวจรกุศลกรรม
ส่วน รูปาวจรกุศลกรรม เป็นมโนกรรมอย่างเดียว และรูปาวจรกุศลกรรม นั้น เป็นภาวนามัย ถึงซึ่งอัปปนา มี ๕ อย่าง ตามความต่างกันแห่งองค์ฌาน
คำอธิบายรูปาวจรกุศลกรรม
รูปาวจรกุศลกรรม ชื่อว่า เป็นมโนกรรมอย่างเดียว เพราะเป็นเจตนาที่เป็นไปทางมโนทวารอย่างเดียวเท่านั้น มิได้เป็นไปทางกายทวารและวจีทวาร เพราะมิได้ทำวิญญัติทั้ง ๒ (กายวิญญัติและววิญญัติ) ให้ตั้งขึ้น
อนึ่ง รูปาวจรกุศลกรรมนั้น เมื่อจะนับเนื่องเข้าในบุญกิริยาวัตถุ ย่อมนับ เนื่องเข้าในภาวนามัย เพราะเป็นสมถภาวนา และเพราะมิได้เป็นไปเกี่ยวกับบุญกิริยาวัตถุข้ออื่น ๆ มีทานมัยเป็นต้น
คำว่า ถึงซึ่งอัปปนา มีความหมายว่า จรดถึงอัปปนา คือนับเนื่องเข้าใน อัปปนาฌาน เพราะเป็นกุศลกรรมที่แนบแน่นในอารมณ์มีปฐวีกสิณเป็นต้น ของตน โดยมีกามาวจรกุศลที่เป็นไปในส่วนเบื้องต้น เป็นปัจจัยให้สำเร็จ
คำว่า มี ๕ อย่าง ตามความต่างกันแห่งองค์ฌาน ความว่า เจตนาที่ถึงความเป็นรูปาวจรกุศลกรรมนั้น มี ๕ อย่าง ตามความต่างกันแห่งองค์ฌานที่ประกอบกับตน อย่างนี้ คือ :
รูปาวจรกุศลกรรมที่ประกอบกับองค์ฌาน ๕ มีวิตกเป็นต้น ชื่อว่า ปฐมฌานรูปาวจรกุศลกรรม ฯลฯ รูปาวจรกุศลกรรมที่ประกอบกับองค์ฌาน ๒ คือ อุเบกขาและเอกัคคตา ชื่อว่า ปัญจมฌานรูปาวจรกุศลกรรม ดังนี้ ตามลำดับแห่งการก้าวล่วงองค์
ก็รูปาวจรกุศลกรรมนี้ นับว่ามีหลายอย่างแม้โดยประการอื่นอีก คือมีหลาย อย่างตามความต่างกันแห่งปฏิปทาเป็นต้น ฉะนี้แล(โปรดติดตามส่วนที่เป็นอรูปาวจรกุศลกรรมต่อครับ)
-------------------
แสดงความคิดเห็น
ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ