ฤทธิ์ ๑๐ อย่าง
คำว่า อิทธิ ในบท อิทธิวิธอภิญญา นั้นแปลว่า ความสำเร็จ ท่านอรรถกถาจารย์ได้แสดงจำแนกความสำเร็จนี้ออกเป็น ๑๐ อย่าง คือ
๑. อธิฏฐานาอิทธิ ฤทธิ์ที่เกิดจากการตั้งใจ
๒. วิกุพพนาอิทธิ ฤทธิ์แปลงกายให้เป็นไปอย่างอื่น ดังเช่น พระโมคคัลลานะแปลงเป็นพระยานาค เป็นต้น
๓. มโนมยาอิทธิ ฤทธิ์ที่เกิดจากฌานสมาธิ ดังเช่น พระจูฬบัณถก
๔. ญาณวิปผาราอิทธิ ฤทธิ์ที่เกิดขึ้นทำการคุ้มครองให้พันจากอันตรายเนื่องด้วยอำนาจแห่งอรหัตตมรรคที่จักเกิดขึ้น ดังเช่น พระพากุลเถระ และ พระสังกิจจเถระ เป็นต้น
๕. สมาธิวิปผาราอิทธิ ฤทธิ์เกิดขึ้นป้องกันอันตราย เนื่องด้วยอำนาจสมาธิดังเช่น พระสารีบุตร นางอุตตรา นางสามาวดี
๖. อริยาอิทธิ ฤทธิ์ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งการเป็นพระอรหันต์ คือ ไม่รู้สึกเกลียดในสิ่งที่น่าเกลียด ด้วยการแผ่เมตตาและการพิจารณาธาตุทั้ง ๔ และมีการเกลียดต่อสิ่งที่น่ารักน่ายินดี ด้วยอำนาจแห่งการพิจารณาอสุภะและอนิจจะ
๗. กัมมวิปากชาอิทธิ ฤทธิ์ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งผลของกรรม ดังเช่นนกบินไปได้ เทวดาและพรหมทั้งหลายเหาะได้ หายตัวได้ ตาทิพย์ หูทิพย์ และวินิปาติก เทวดา คือ นางยักขินีที่ชื่อว่า ผุสสะ มิตตะ ธัมมคุตตะ ที่เป็นมารดาของปิยังกะ อุตตระ เหาะได้ หายตัวได้ เหล่านี้เป็นต้น
๘. ปุญญวโตอิทธิ ฤทธิ์ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจของบุญ ดังเช่นพระเจ้าจักรพรรดิ์ทรงเหาะไปในทวีปทั้ง ๔ พร้อมด้วยเสนาข้าราชบริพาร และโชติกเศรษฐีที่มีปราสาทเป็นแก้วมณีผุดขึ้นให้แก่สัตว์ทั้งหลาย เป็นลักษณะ
๙. วิชชามยาอิทธิ ฤทธิ์ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจของวิชาอาคม ที่แสดงไว้ในอาถรรพนเวทปกรณ์ ดังเช่น วิชาธรเหาะได้ แสดงเป็นพลช้าง พลม้า พลเท้า พลรถ ปรากฏในท้องอากาศให้คนทั้งหลายเห็นได้
๑๐. ตัตถตัตถสัมมาปโยคปัจจยาอิทธิ ฤทธิ์ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งความพยายามค้นคว้าศึกษาพิสูจน์อย่างรอบคอบถี่ถ้วนโดยถูกต้อง ในด้านวัตถุสิ่งของนั้นๆและการงานต่างๆ ตลอดจนถึงการปริยัติและปฏิบัติ ดังเช่นการประหาณนิวรณ์ด้วยปฐมฌานเป็นต้น การประหาณกิเลสด้วยมรรค์ทั้ง ๔ ความรู้แตกฉานในพระไตรปีฎกและอรรถกถา วิชาโหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ แพทยศาสตร์ เกษตรศาสตร์ อักษศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ยุทธศาสตร์ เหล่านี้เป็นต้น
จบสมถกรรมฐานทีปนี
วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๔
--------------------
[full-post]
แสดงความคิดเห็น
ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ