สมเกียรติ พลเดชอุดมคุณ
ปิฏกทั้ง 3 มีลักษณะอาการที่แสดงถึงความแตกต่างกันอย่างไร?
ว่าโดยลักษณะของเทศนา(การแสดง)
พระวินัยปิฏก เรียกว่า " อาณาเทศนา " เพราะมากไปด้วยการแสดงกฏข้อบังคับ
พระสุตตันตปิฏก เรียกว่า " โวหารเทศนา " เพราะมากไปด้วยการแสดงโวหาร(คือใช้คำพูดต่างกันมาก)
พระอภิธรรมปิฏก เรียกว่า " ปรมัตถเทศนา " เพราะมากไปด้วยการแสดงธรรมชาติอันเป็นปรมัตถ์
ว่าโดยลักษณะของคำสอน
พระวินัยปิฏก เรียกว่า " ยถาปราธสาสน์ " เพราะทรงสอนผู้มีความผิดตามสมควรแก่โทษ
พระสุตตันตปิฏก เรียกว่า " ยถานุโลมสาสน์ " เพราะทรงสอนอนุโลมตามอัชฌาสัย,จริต,อธิมุติ ของเวไนยสัตว์
พระอภิธรรมปิฏก เรียกว่า " ยถาธรรมสาสน์ " เพราะทรงสอนสัตว์ทั้งหลายผู้ยึดเอาธรรมทั้งหลายว่าเราของเรา ตามสมควรแก่ธรรม
ว่าโดยลักษณะของคำพูด
พระวินัยปิฏก เรียกว่า " สังวราสังวรถาถา " เพราะตรัสถึงความสำรวมน้อยใหญ่ทั้งหลาย อันเป็นปฏิปักษ์ต่ออัชฌาจาร(ความประพฤติล่วงละเมิด)
พระสุตตันตปิฏก เรียกว่า " ทิฏฐินิเวฐนกถา " เพราะตรัสถึงการเปลื้องทิฏฐิ(ความเห็นผิด) อันเป็นปฏิปักษ์ต่อทิฏฐิ 62 อย่าง
อภิธรรมปิฏก เรียกว่า " นามรูปปริจเฉทกถา " เพราะตรัสถึงการกำหนดแยกให้เห็นว่า เป็นนาม เป็นรูป
อนึ่ง เพราะเหตุที่พระวินัยเป็นเครื่องฝึกหัดกายและวาจาให้อยู่ในระเบียบ ไม่ล่วงละเมิด ปิฏกนี้จึงสงเคราะห์เข้าใน " อธิศีลสิกขา "
เพราะเหตุที่พระสูตรกล่าวถึงการแสดงธรรมของพุทธองค์ ที่มีการตรวจดูจริตอัชฌาสัยเป็นต้นของเวไนยสัตว์ก่อน ซึ่งเป็นไปเพราะกำลังของสมาธิ ปิฏกนี้จึงสงเคราะห์้เข้าใน " อธิจิตตสิกขา "
และเพราะเหตุที่พระอภิธรรมแสดงปรมัตถธรรม 4 อันจำแนกเป็นขันธ์ 5.เป็นต้น อันเป็นภูมิของวิปัสสนาปัญญา เป็นเรื่องที่ปัญญาจะต้องหยั่งรู้ ปิฏกนี้จึงสงเคราะห์เข้าใน " อธิปัญญาสิกขา "
(นิสสยอักษรปัลลวะ,อักษรสิงหล,อักษรธรรมล้านช้าง)
แสดงความคิดเห็น
ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ