สมเกียรติ พลเดชอุดมคุณ

 

คัมภีร์ขุททกปาฐะ เป็นไฉน?

   เมื่อมีความศรัทธาเลื่อมใสเชื่อมั่นไม่หวั่นไหวก็จะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พุทธมามกที่นำมาท่องสาธยายบ่อยๆเนื่องๆ สามารถมีคุณธรรมที่สูงขึ้นโดยส่วนเดียวจริงหรือ?

   คัมภีร์ขุททกปาฐะ คือกลุ่มหมวดหัวข้อธรรม 9 ห้วข้อที่ใช้ท่องสาธยายเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นให้คุณธรรมที่สูงขึ้นให้เจริญก้าวหน้าได้ มี 9 หัวข้อ ดังนี้

   1. สรณคมน์ คือ การเข้าถึงสรณะด้วยความเข้าใจคุุณสมบัติสรณ 3 ประการ มี พระพุทธ พระธรรม และ พระอริยสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง เมื่อระลึกสาธยายถึง ว่าสามารถกำจัดภัยวิบัติได้จริง

   2. ทสสิกขาบท คือ ศีลสิกขาบท 10 ข้อ ที่ทั้งสามเณรผู้บรรพชา ทั้งเภิกษุผู้อุปสมบท ต้องรับไตรสรณคมน์ และต้องรักษาไว้ได้ครบบริบูรณ์ จึงจะมีโอกาสเข้าถึงไตรสรณคมน์แบบเห็นประจักษ์(ภาวนาญาณ)ใม่ใช่แบบเข้าใจที่จินตนาการเอา(จินตาญาณ)จึงเป็นคนละหัวข้อธรรมกับข้อที่หนึ่ง

   3. ทวัตติงสาการ คือ การท่องสาธยายอาการ 32 มี ผม ขน เล็บ ฟัน หนังเป็นต้น เพื่อบรรเทาความกำหนัด 

   4. สามเณรปัญหา คือ ความรอบรู้(ปัญญา)คุณความเป็นพระอรหันต์ แม้จะเป็นสามเณร  ด้วยการสำนึกระลึกรู้คุณสมบัติตามที่มีปรากฏในตัวท่านอันเป็นผลปรากฏจากการบรรลุความเป็นพระอรหันต์  ดังนั้นเมื่อถูกถามปัญหาเกี่ยวกับองค์คุณ 10 ประการที่มีประจำในตัวท่าน จึงตอบคล่อง เช่น อะไรชื่อว่าหนึ่ง(เอกนฺนาม กึ) อะไรชื่อว่าสอง(เทฺว นาม กึ)เป็นต้น

   5. มงคลสูตร คือ สูตรที่ว่าด้วยเรื่องมงคลที่พึงระลึกทบทวนบ่อยๆ ก็จะทราบถึงต้นเหตุที่ทำให้การเจริญมงคลเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าเผลอขาดสติชล่าใจไปคบกับคนพาลเข้า แม้นมีคุณธรรมอยู่ก่อนแล้วก็เสื่อมได้ และก็ยังทราบได้อีกว่า การเจริญมงคลจากข้อแรกถึงข้อสุดท้ายล้วนต้องมีวิสุทธิ 7 ประกอบด้วยเสมอจึงจะเจริญได้สำเร็จ

   6. รัตนสูตร คือ พระสูตรที่ว่าด้วยการสวดสาธยายรัตนคุณด้วยแรงสัจจอธิฏฐาน ซึ่งผู้สวดสาธยายต้องประกอบด้วยศีล คือ ต้องสวดสาธยายด้วยเมตตาธรรมที่ปรารถนาดีต่อสัพพสัตว์ ต้องประกอบด้วยสมาธิ คือ ต้องสวดสาธยายด้วยเจตนาตั้งใจที่ถูกอักขระ ฐานกรณ์ ปยตน ต้องประกอบด้วยปัญญา คือต้องสวดสาธยายด้วยความเข้าใจคุณของรัตนจริง.ดังนั้นผู้สวดสาธยายจึงต้องเรียนรู้และฝึกฝน ไม่ใช่สักแต่สวดเป็นนกแก้วนกขุนทอง เพราะองค์คุณของไตรสิกขาจะไม่มีเลย ก็เท่ากับไม่มีอานุภาพนั้นเอง

   7. ติโรกุฑฑสูตร คือ พระสูตรที่ว่าด้วยการอุทิศบุญกุศลที่ตนได้ทำแล้วให้แก่สัพพสัตว์ โดยการแผ่เมตตาเป็นปกติวิสัย มีการอุทิศแก่ญาติที่เป็นเปรตรออยู่นอกฝาเรือน(ติโลกุฑฑะ) เป็นต้น จักเป็นที่ชื่นชอบแก่ผู้รู้อุปนิสัยเกิดมีเมตตาจิตรตอบสนอง

   8. นิธิกัณฑสูตร คือ พระสูตรที่ว่าด้วยการเก็บรักษาทรัพย์ไว้ได้ ที่เหล่าบัณฑิตพากันประพฤติปฏิบัติด้วย ทาน ศีล สัญญมะ คือ สมาธิ(อรรถกถาทุททกปาฐะ) และ ทมะ คือ ปัญญา(อภิธาน 847) ซึ่งแน่นอนว่าตนจะได้ใช้สอย เหตุเพราะเป็นไปในจิตตสันดานเดียวกัน คือ ในจิตตสันดานของตนนั่นเอง

   9. เมตตาสูตร คือ พระสูตรที่ว่าด้วยการเจริญเมตตากัมมัฏฐาน เพื่อความผาสุขในการเจริญสมณธรรมได้สะดวก

   สรูปความว่า หัวข้อธรรมทั้ง 9 ข้อ ในคัมภีร์ขุททกปาฐะนี้ ผู้ประสงค์จะเจริญสมณธรรมให้ก้าวหน้า พึงขจัดอุปสรรคด้วยการท่องสาธยายประพฤติปฏิบัติตามหัวข้อธรรมเหล่านั้น ดังกรณีย์ที่หมู่พระภิกษุไปประจำพรรษาที่ราวป่าหิมพาน เพื่อเจริญสมณธรรม แต่กลับถูกพวกอมนุษย์(รุกขเทวดา)รบกวนตลอดเวลา จนไม่สามารถเจริญสมณธรรมได้เลย จึงพากันกลับมาเข้าเฝ้ากราบทูลให้พระพุทธองค์ทรงทราบ ทรงรับสั่งให้กลับไปสถานที่เดิม โดยทรงแนะนำให้สวดสาธยายเมตตาสูตร เพื่อแผ่เมตตาความปรารถนาดีไปยังอมนุษย์เหล่านั้น ทำให้จิตรที่เคยขัดเคืองต่อพระภิกษุเหล่านั้นสิ้นไป เกิดเมตตาจิตรขึ้นแทน เป็นต้น(เกณฑ์การจำแนกพระสูตรในขุททกนิกายไปสู่พระสูตรในสังกัดนวังคสัตถุสาสน์ จากคัมภีร์นิสสยะอักษรปัลลวะ)

 

[full-post]

คัมภีร์ขุททกปาฐะ

แสดงความคิดเห็น

ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.