วัดดีต้องมีครบห้าหอ (๔)
.........................................................
หอทั้ง ๕ ที่วัดจะต้องมีคือ
๑ หอฉัน
๒ หอสวดมนต์
๓ หอระฆัง
๔ หอกลอง
๕ หอไตร
.........................................................
๔ หอกลอง
คือสถานที่แขวนกลองอันเป็นอุปกรณ์ส่งสัญญาณทำนองเดียวกับระฆังนั่นเอง เพียงแต่เป็นสัญญาณบอกการทำกิจที่อาจจะแตกต่างกันออกไป
ตีระฆัง เป็นสัญญาณบอกว่าพระเณรทำกิจอย่างหนึ่ง
ตีกลอง เป็นสัญญาณบอกว่าพระเณรทำกิจอีกอย่างหนึ่ง
บางกรณี ตีกลองพร้อมกับตีระฆัง ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่ามีกิจพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น
การตีกลองที่เป็นสัญญาณลงตัวแล้วในปัจจุบันนี้ก็คือ ตีกลองในเวลา ๑๑:๐๐ อันเป็นเวลาที่พระภิกษุสามเณรฉันภัตตาหารเพล
ตีกลองในเวลานั้น เรียกกันว่า ตีกลองเพล
ได้ยินเสียงกลองในเวลานั้น ก็เรียกรู้กันว่า กลองเพล
กลองเพลมีประโยชน์ตรงที่เตือนพระเณรให้รู้ว่าถึงเวลาฉันเพลแล้ว-อย่ามัวชักช้า มีเวลาเพียงชั่วโมงเดียว คือห้าโมงเช้าถึงเที่ยงวัน
ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของกลองเพลก็คือ เตือนชาวบ้านให้คิดถึงพระเณรว่ามีภัตตาหารพอที่จะฉันได้ทั่วถึงกันหรือเปล่า
คนที่มีใจเป็นห่วง ได้ยินเสียงกลองเพลก็จะจัดเตรียมภัตตาหารไปถวาย
บางคนอยู่ใกล้วัด สามารถจะเข้าไปในวัดได้สะดวก ก็จะไปที่ครัวสงฆ์* จัดแจงปรุงอาหารเพลถวายพระตามแต่จะมีวัตถุดิบและมีเวลาพอที่จะทำได้ทัน
.........................................................
*ครัวสงฆ์ คือที่เก็บเสบียงหรืออาหารแห้งที่มีผู้ถวายพระ มีพุทธานุญาตให้มีที่เก็บเป็นส่วนกลาง ห้ามพระเก็บไว้เป็นส่วนตัว และมีพุทธบัญญัติห้ามพระหุงต้มทำอาหารเอง ดังนั้น จึงต้องมีอารามิกชนคือคนวัดที่ไม่ใช่พระ หรือชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดหรือสะดวกที่จะมาช่วยวัด เป็นผู้ทำหน้าที่หุงต้มถวายพระ
.........................................................
นี่เป็นภาพที่เกิดขึ้นทุกวันในสังคมชาววัดและชาวบ้าน-อันมีกลองเพลเป็นสื่อสัญญาณ
หอกลองย่อมมีความสำคัญด้วยประการฉะนี้
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
ภาคีสมาชิก ราชบัณฑิตยสภา
๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
๑๐:๕๔
[full-post]
แสดงความคิดเห็น
ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ