ทองย้อย แสงสินชัย
#บาลีวันละคำ (4,299)
สารีริกธาตุ
เรียกกันจนลืมรูปคำเดิม
อ่านว่า สา-รี-ริ-กะ-ทาด
ประกอบด้วยคำว่า สารีริก + ธาตุ
(๑) “สารีริก”
อ่านว่า สา-รี-ริ-กะ รากศัพท์มาจาก สรีร + ณิก ปัจจัย
(ก) “สรีร” อ่านว่า สะ-รี-ระ รากศัพท์มาจาก สรฺ (ธาตุ = เป็นไป, เบียดเบียน) + อีร ปัจจัย
: สรฺ + อีร = สรีร แปลตามศัพท์ว่า -
(1) “ร่างที่เป็นไปตามปกติ” คือเกิดขึ้น ดำรงอยู่ แตกสลายไปตามธรรมดา
(2) “ร่างที่เบียดเบียนลม” คือทำให้ลมผ่านไม่สะดวกเนื่องจากมาปะทะกับร่าง
“สรีร” ใช้ในความหมายดังนี้ -
(1) ร่างกาย, โครงร่างของสิ่งใดๆ ที่เป็นวัตถุ (the body, the physical body)
(2) ร่างกายคนตาย, ซากศพ (a dead body, a corpse)
(3) กระดูก (the bones)
(4) ส่วนของร่างกายของผู้ที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว (relics)
บาลี “สรีร” สันสกฤตเป็น “ศรีร”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า -
“ศรีร : (คำนาม) กาย, ร่าง, ตัว; the body.”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า -
“สรีร-, สรีระ : (คำนาม) ร่างกาย. (ป.; ส. ศรีร).”
(ข) สรีร + ณิก ปัจจัย, ลบ ณ (ณิก > อิก), ทีฆะต้นศัพท์ ตามสูตร “ด้วยอำนาจปัจจัยเนื่องด้วย ณ” คือ อะ ที่ ส-(รีร) เป็น อา (สรีร > สารีร)
: สรีร + ณิก > อิก = สรีริก > สารีริก แปลตามศัพท์ว่า “มีอยู่ในสรีระ” “เกี่ยวกับร่างกาย”
“สารีริก” ใช้ในความหมาย 2 อย่าง:
(1) เป็นคำคุณศัพท์ หมายถึง เกี่ยวเนื่องกับสรีระ, เกี่ยวกับร่างกาย (connected with the body, bodily)
(2) เป็นคำนาม หมายถึง กระดูกที่เหลือหลังจากเผาแล้ว (bodily relics)
ในที่นี้ใช้ในความหมายตามข้อ (2)
(๒) “ธาตุ”
บาลีอ่านว่า ทา-ตุ รากศัพท์มาจาก ธา (ธาตุ = ทรงไว้) + ตุ ปัจจัย อีกนัยหนึ่งว่ามาจาก ธรฺ (ธาตุ = ทรงไว้) + ตุ ปัจจัย, ลบ รฺ ที่สุดธาตุ, ทีฆะ อะ ที่ ธ-(รฺ) เป็น อา (ธรฺ > ธาร)
: ธา + ตุ = ธาตุ
: ธรฺ > ธ + ตุ = ธตุ > ธาตุ
“ธาตุ” (อิตถีลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า -
(๑) “อวัยวะที่ทรงร่างไว้” หมายถึง กระดูก, อัฐิ
(๒) (1) “สิ่งที่คงสภาพของตนไว้” (2) “สิ่งที่ทรงไว้ซึ่งมูลค่า” (3) “สิ่งที่ทรงประโยชน์ของตนไว้บ้าง ของผู้อื่นไว้บ้าง” หมายถึง ธาตุ, แร่ธาตุ
(๓) (1) “อักษรที่ทรงไว้ซึ่งเนื้อความพิเศษ” (2) “อักษรอันเหล่าบัณฑิตทรงจำกันไว้” หมายถึง รากศัพท์
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แสดงความหมายของ “ธาตุ” ไว้ดังนี้
(1) a primary element, of which the usual set comprises the four : earth, water, fire, wind (ปฐมธาตุ, คือธาตุซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 อย่าง คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม)
(2) natural condition, property, disposition; factor, item, principle, form (ภาวะตามธรรมชาติ, คุณสมบัติ, อุปนิสัย, ปัจจัย, หัวข้อ, หลัก, รูป)
(3) elements in sense-consciousness: referring to the 6 ajjhattikāni & 6 bāhirāni āyatanāni (ธาตุเกี่ยวกับความรู้สึก เกี่ยวถึงอายตนะภายใน 6 และภายนอกอีก 6)
(4) a humour or affection of the body (อารมณ์ หรืออาการของกาย)
(5) the remains of the body after cremation (ส่วนที่เหลือของร่างเมื่อเผาศพแล้ว)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของคำว่า “ธาตุ” ในภาษาไทยไว้ว่า -
(1) สิ่งที่ถือว่าเป็นส่วนสําคัญที่คุมกันเป็นร่างของสิ่งทั้งหลาย โดยทั่ว ๆ ไปเชื่อว่ามี ๔ ธาตุ ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุนํ้า ธาตุไฟ ธาตุลม แต่ก็อาจมีธาตุอื่น ๆ อีก เช่น อากาศธาตุ วิญญาณธาตุ ธาตุไม้ ธาตุทอง ธาตุเหล็ก.
(2) กระดูกของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์ โดยทั่ว ๆ ไปเรียกรวม ๆ ว่า พระธาตุ, ถ้าเป็นกระดูกของพระพุทธเจ้า เรียก พระบรมธาตุ หรือ พระบรมสารีริกธาตุ, ถ้าเป็นกระดูกของพระอรหันต์ เรียกว่า พระธาตุ, ถ้าเป็นกระดูกส่วนใดส่วนหนึ่งของพระพุทธเจ้า ก็เรียกตามความหมายของคํานั้น ๆ เช่น พระอุรังคธาตุ พระทันตธาตุ, ถ้าเป็นผมของพระพุทธเจ้า เรียกว่า พระเกศธาตุ.
(3) ชื่อคัมภีร์ในพระพุทธศาสนาซึ่งว่าด้วยธาตุ เช่น ธาตุกถา ธาตุปาฐ.
(4) (ภาษาถิ่น-อีสาน) เจดีย์ที่บรรจุกระดูกคนที่เผาแล้ว.
(5) สารเนื้อเดียวล้วนซึ่งประกอบด้วยบรรดาอะตอมที่มีโปรตอนจํานวนเดียวกันในนิวเคลียส.
(6) รากศัพท์ของคําบาลีสันสกฤตเป็นต้น เช่น ธาตุ มาจาก ธา ธาตุ สาวก มาจาก สุ ธาตุ กริยา มาจาก กฺฤ ธาตุ.
ในที่นี้ “ธาตุ” หมายถึง กระดูกของพระพุทธเจ้า
สารีริก + ธาตุ = สารีริกธาตุ บาลีอ่านว่า สา-รี-ริ-กะ-ทา-ตุ ภาษาไทยอ่านว่า สา-รี-ริ-กะ-ทาด แปลว่า “ธาตุคือกระดูก”
“สารีริกธาตุ” หมายถึง กระดูกของพระพุทธเจ้า ที่เรียก พระบรมธาตุ หรือ พระบรมสารีริกธาตุ หรือที่พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ บอกความหมายว่า the remains of the body after cremation (ส่วนที่เหลือของร่างเมื่อเผาศพแล้ว)
เวลาพูดคำว่า “พระบรมสารีริกธาตุ” มีใครนึกถึงคำว่า “สรีระ” บ้างหรือเปล่า?
แถม :
พระบรมสารีริกธาตุเป็นสิ่งสุดท้ายที่ประกาศให้รู้ว่า โลกในยุคสมัยนี้เคยมีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอยู่ในจิตใจของมวลมนุษย์ และพระบรมสารีริกธาตุก็จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่อันตรธานไปจากโลกเมื่อถึงเวลาศาสนาอันตรธาน
เมื่อพระบรมสารีริกธาตุอันตรธานแล้ว ก็เป็นอันว่าพระพุทธศาสนาดับสูญสิ้นไปจากโลกโดยสิ้นเชิง โลกจะมืดมนอนธการด้วยอวิชชาโมหะหนาทึบไปจนกว่าจะมีพระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไปอุบัติขึ้น ดั่งอาทิตย์อุทัยส่องโลกนี้พร้อมทั้งสรรพโลกให้สว่างไสวขึ้นอีกวาระหนึ่งฉะนั้น
..............
ดูก่อนภราดา!
: วันนี้ท่านจะปฏิบัติธรรมให้สุดความสามารถ
: ฤๅจะรอไปจนถึงวันพระบรมสารีริกธาตุอันตรธาน?
[full-post]
แสดงความคิดเห็น
ข้อมูลความคิดเห็นของท่าน จะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้ง ฯ